ผลการค้นหา ความหมาย คำแปล แปลว่าอะไร ของ

เปล

ใน Dictionary 5 ภาษา
ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการมากขึ้น *เปล*, -เปล-

เปล ในภาษาอังกฤษ

English-Thai: NECTEC's Lexitron Dictionary
เปล (n.) cradle See also: hammock, stretcher
เปล่ง (v.) shine See also: radiate, glow, illuminate, emit, irradiate Syn. ส่งแสง, ส่องแสง, ฉาย
เปล่ง (v.) utter See also: express, say, shout, sound, acclaim, announce Syn. ออกเสียง, ส่งเสียง, เปล่งเสียง
เปล่งประกาย (v.) radiate See also: shine, glisten, glister, flash, gleam, sparkle, twinkle Syn. ฉายแสง, ขับแสง, แผ่รัศมี, เปล่งรัศมี, ส่งประกาย, ส่องแสง Ops. หมอง
เปล่งปลั่ง (adj.) radiant See also: glowing (with health) Syn. สดใส, ผ่องแผ้ว, ผ่อง, ผุดผ่อง, ผ่องใส, ปลั่ง Ops. หมอง
เปล่งปลั่ง (v.) glow See also: shine, bright, radiant (of look), glow (with health), lustrous Syn. สดใส, ผ่องแผ้ว, ผ่อง, ผุดผ่อง, ผ่องใส, ปลั่ง Ops. หมอง
เปล่งรัศมี (v.) glow See also: shine, gleam, glimmer, brighten
เปล่งเสียง (v.) utter See also: sound, pronounce, speak, say, voice Syn. ออกเสียง
เปล่งเสียง (v.) utter See also: sound, pronounce, speak, say, voice Syn. ออกเสียง
เปล่งแสง (v.) shine See also: radiate, shine, emit, glare, glitter, twinkle, sparkle Syn. ส่องแสง, ฉายแสง
เปลญวน (n.) hammock See also: cradle Syn. เปล
เปล (n.) lard See also: fat Syn. มันเปลว
เปล (n.) flame See also: lick Syn. เปลวไฟ, เปลวเพลิง
เปลวเพลิง (n.) flame See also: glow, licking flames Syn. เปลวไฟ, เปลว
เปลวแดด (n.) burning sunshine
เปลวไฟ (n.) blaze See also: flame, glow Syn. เปลวเพลิง, เปลว
เปล่า (neg.) no Syn. ไม่ Ops. ใช่
เปล่า (adj.) bare See also: naked, nude Syn. เปลือย, เปลือยเปล่า, เปล่าเปลือย
เปล่า (adj.) empty See also: blank Syn. ว่างเปล่า, ว่าง, โล่ง Ops. เต็ม
เปล่าๆ (adv.) in vain See also: pointlessly Syn. ไม่ได้ผล, ไร้ผล, ไร้ประโยชน์ Ops. มีประโยชน์, ได้ผล, ได้ประโยชน์
เปล่าๆ (adj.) empty See also: ิblank Syn. ว่างๆ, เปล่า Ops. เต็ม
เปล่าดาย (adj.) useless
เปล่าประโยชน์ (adj.) useless See also: good for nothing, no point in vain Syn. ไร้ผล, ไร้ประโยชน์, เปล่าดาย Ops. มีประโยชน์
เปล่าประโยชน์ (v.) be useless See also: be unhelpful, be unprofitable, be no use Syn. ไร้ผล, ไร้ประโยชน์, เปล่าดาย Ops. มีประโยชน์
เปล่าว่าง (v.) be spacious See also: be empty, be vast, be immense Syn. ว้างเวิ้ง, โล่ง
เปลาะ (n.) section or distance between knots See also: section, part, division
เปลาะ (clas.) unit See also: point, problem Syn. เรื่อง, ส่วน, ตอน
เปล่าเปลี่ยว (v.) be lonesome See also: be alone Syn. เปลี่ยว
เปล่าเปลี่ยว (adj.) lonesome See also: lonely
เปล่าเปลี่ยว (v.) lonesome See also: lonely, desolate, solitary, sole, secluded Syn. หงอยเหงา, อ้าวว้าง, ว้าเหว่, โดดเดี่ยว, เดียวดาย, วิเวก
เปล่าเปลือย (adj.) bare See also: naked, nude Syn. เปลือย, เปลือยเปล่า
เปล่าเปลือย (adj.) naked See also: nude, bare Syn. โล่งโต้ง, โล่งโจ้ง, ล่อนจ้อน
เปลี้ย (v.) tire See also: exhaust, be feeble, fatigue Syn. เพลีย, เหนื่อย, เมื่อย, กะปลกกะเปลี้ย, อ่อนล้า, อ่อนเพลีย, ล้า, อิดโรย, อ่อนเปลี้ย Ops. สดชื่น, กระปรี้กระเปร่า
เปลี่ยน (v.) vary See also: alter, vary, transform, change Syn. เปลี่ยนแปลง, แปลง, Ops. คงสภาพ, คงที่
เปลี่ยน (เรือ) (v.) transfer See also: change, shift, embark, board Syn. ขึ้น (เรือ)
เปลี่ยนกัน (v.) alternate See also: take turns Syn. สลับกัน
เปลี่ยนคน (v.) replace See also: take the place of, oust, substitute Syn. เปลี่ยนตัว
เปลี่ยนความคิด (v.) change one´s idea See also: change one´s thought
เปลี่ยนฉาก (v.) (the scene) cut from sth to sth See also: change the scene Syn. ตัดตอน
เปลี่ยนตัว (v.) replace See also: take the place of, substitute for, take turns, displace Syn. เปลี่ยนคน, สลับตัว
English-Thai: HOPE Dictionary
china barkเปลือกต้นซิงโคนา
abelian(อะบี' เลียน, อะเบล' ยัน) adj. เกี่ยวกับ Niels Henrik Abel (นักคณิตศาสตร์มีชื่อ) เปลี่ยนกลุ่มได้, กลุ่มที่เปลี่ยนได้
ablaut(อาบ' เลาทฺ, อาบ' เลาทฺ) n. การเปลี่ยนส่วนของคำ (โดยเฉพาะสระ)
absolve(แอบซอลว' , -ซอลว) vt. ปลดเปลื้อง ล้างบาป อภัยโทษ หลุดออกจาก
accent(n. แอค' เซินทฺ, v. แอค' เซินทฺ, แอค' เซนทฺ') n. เสียงหนัก, เสียงเน้น,เครื่องหมายเสียงหนัก, การเน้นเสียงหนักตรงพยางค์หนึ่งพยางค์ใด, สำเนียงเปล่ง, ลักษณะจำพวก, ความเน้นหนัก.
accidence(แอค' ซิเดินซฺ) n. อักขรวิธี, การศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรูปคำ, Syn. rudiment)
acclaim(อะเคลม') vt.,n. เปล่งเสียงด้วยความ ยินดี, โห่ร้องต้อนรับ, สนับสนุนด้วยการโห่ร้อง, เสียงไชโยโห่ร้อง -acclamation n., Syn. hail)
acescent(อะเซส' เซนทฺ) adj. เปลี่ยนเป็นเปรี้ยว, ค่อนข้างเปรี้ยว -acescency n.
acetify(อะเซท' ทิไฟ) vt., vi. เปลี่ยนเป็นน้ำส้มสายชู, ทำให้เปรี้ยว (turn into vinegar)
acetolaseเอนไซม์ที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงแอลกอฮอลล์เป็น acetic acid
achondroplasia(แอคคอนโดรเพล' เซีย) n. ความบกพร่องของการเปลี่ยนจากกระดูกอ่อนเป็นกระดูก ทำให้ร่างแคระ. -achondroplastic adj.
acidify(อะซิด' ดิไฟ) vt.,vi. ทำให้หรือเปลี่ยนเป็นกรด. -acidification n. -acidifier n.
acierate(แอสอิเออเรท) vt. เปลี่ยนเป็นเหล็กกล้า
acoustic couplerตัวคู่ต่อทางเสียงหมายถึง อุปกรณ์ชนิดหนี่งที่ใช้เป็นตัวเปลี่ยนสัญญาณจากดิจิตอลของคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณโทรศัพท์ หรือจากสัญญาณโทรศัพท์เป็นสัญญาณดิจิตอลของคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มีการสื่อสารกันได้ ใช้วางอยู่กับเครื่องโทรศัพท์ มีลักษณะเป็นโมเด็มชนิดหนึ่ง ดู MODEM ประกอบ
active windowวินโดว์ที่กำลังใช้งานหมายถึง วินโดว์ที่กำลังใช้อยู่ หรืออาจพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ว่า เป็นวินโดว์ที่มีโปรแกรมที่กำลังเปิดใช้อยู่ หรืออยู่หน้าวินโดว์อื่น ๆ วินโดว์นี้ จะเป็นวินโดว์ที่ตอบสนองการสั่งงานทุกอย่าง ถ้าบนจอภาพมีวินโดว์แสดงอยู่มากกว่าหนึ่งวินโดว์ จะมีวินโดว์ใช้งานอยู่เพียงวินโดว์เดียว นอกนั้นเป็นวินโดว์ที่ไม่ได้ใช้งาน (non-active window) โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นระบบไมโครซอฟต์ วินโดว์ของพีซี (PC) ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จะทราบว่า วินโดว์ ไหนเป็นวินโดว์ใช้งาน โดยดูที่แถบชื่อ (title bar) ถ้าวินโดว์ ใดมีแถบชื่อที่สีต่างกว่าวินโดว์อื่น วินโดว์นั้นจะเป็นวินโดว์ที่ใช้งานอยู่ ถ้าเป็นเครื่องแมคอินทอช วินโดว์ใช้งานจะมีเส้นหลาย ๆ เส้น ในช่องแถบชื่อนั้น ส่วนวินโดว์ที่ยังไม่ใช้งานแถบชื่อจะว่างเปล่า
adamite(แอด' ดะไมทฺ) n. ผู้สืบเนื่องต่อมาจากอาดัม, มนุษย์, ผู้นิยมลัทธิเปลือยการหรืออาบแดด, นักอาบแดดเปลือยกาย. -adamitic, -adamitical adj.
adenaseเอนไซม์ที่พบในม้ามและตับอ่อนที่ทำให้ adenine เปลี่ยนเป็น hypoxanthine และ ammonia
adrenocorticotropic(อะดรี' โนคอร์ทิโคทรอพ' พิค) adj. ซึ่งกระตุ้นส่วนเปลือกของต่อมหมวกไต
aerify(แอ' ริไฟ) vt. อัดอากาศเข้า, เผยกับอากาศ, เปลี่ยนเป็นลักษณะอากาศธาตุ., Syn. aerify
aferothermodynamics(แอโรเธอไมไดแนม' มิคซฺ) aerodynamics ที่เกี่ยวกับสถานะการณ์ที่มีการแลกเปลี่ยนความร้อนในแก๊ส. -aerothermodynamic adj. (aerothermodynamics)
afforest(อะฟอ' เรสทฺ) vt. เปลี่ยนให้เป็นป่า...ทำให้เป็นป่า-afforestation n.
afoot(อะฟุท') adv.,adj. เดินเท้าเปล่า, ดำเนินการ, เคลื่อนไหว, Syn. on foot, walking)
agio(แอจ' จิโอ) n., (pl. -os) ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนเงินตรา (premium on money)
adrenal glandต่อมหมวกไต มีส่วนประกอบ 2 ส่วน 1. ส่วนเปลือก (adrenal cortex) ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน 1.1 กลูโคคอร์ติคอยด์ แยกย่อยได้แก่ cortisone ,hydrocortisone ซึ่งทำหน้าที่ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ทำให้จำนวนกลูโคสในเลือดเพิ่มขึ้น และไกลโคเจนจะถูกสะสมในตับมากขึ้น ดังนั้นจะเห็นว่าฮอร์โมนนี้จะทำหน้าที่ตรงข้ามกับ insulin ในขณะที่ร่างกายเครียดจะหลั่ง ACTH และ cortisoneออกมาโดยผ่านทาง higher center ของระบบประสาทส่วนกลาง เราจึงมักพบ cortisone ในสภาวะที่ร่างกายได้รับความเจ็บปวด ถูกของร้อน มีคม ไข้สูง ฯลฯ 1.2 ไมเนอราลคอร์ติคอยด์ แยกย่อยได่แก่ aldosterone deoxycorticosterone ซึ่งมีจำนวนน้อย ทั้งสองฮอร์โมนทำหน้าที่ควบคุมน้ำและเกลือแร่ 1.3 sex hormone แยกย่อยได้เป็น Estrogen Progesterone Androgen 2. ส่วนแกน (adrenal medulla) ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญคือ 2.1 adrenaline หรือ epinephrine ทำให้หัวใจเต้นแรง ความดันเลือดเพิ่มขึ้น เส้นเลือดที่ผิวหนังและอวัยวะภายในบีบตัว อัตราการหายใจเพิ่มขึ้น เร่งการสลาย glycogen ในตับเพื่อเปลี่ยนเป็น glucose ทำให้นเตาลในเลือดสูงขึ้น 2.2 noradrenaline ไม่มีผลต่อการเผาผลายอาหารในร่างกาย แต่มีผลทำให้เลือดหดตัว หัวใจเต้นช้าลง ความดันเลือดสุงขึ้น ขยายหลอดลม แต่ไม่มีผลต่อระดับ้ำตาลในเลือด
agiotage(แอจ' จิโอทิจ) n. ธุรกิจการเปลี่ยนเงินตรา, ธุรกิจนายหน้าหลักทรัพย์หรือใบหุ้น
aglow(อะโกล') adj. สว่าง, วาววับ, เปล่งปลั่ง
akathisiaภาวะที่ต้องเปลี่ยนท่าบ่อย ๆ
albescent(แอลเบส' เซินทฺ) adj. เปลี่ยนเป็นสีขาว, ขาว -albescence n.
album(แอล' บัม) n. สมุดหน้าเปล่าสำหรับเก็บภาพแสตมป์หรืออื่น ๆ ,แผ่นเสียงขนาดใหญ่, ชุดแผ่นเสียง, สมุดลงนามของผู้มาเยี่ยม
alchemy(แอล' คะมี) n. การเล่นแปรธาตุใสยุคสมัยกลางเพื่อหากรรมวิธีเปลี่ยนโลหะให้เป็นทองและการหาน้ำอมฤต. -alchemic, alchemical, alchemistic, alchemistical adj. -alchemist n.
alder(ออล' เดอะ) n. ไม้ชนิดหนึ่งจำพวก Alnus ใช้ทำเครื่องเรือนเปลือกใช้ย้อมผ้า
aldosterone(แอลโดสทิโรน์') n. Biochem. ฮอร์โมนชนิดหนึ่งจากเปลือกของต่อม adrenal gland (a hormone) ดูที่ adrenal gland
alkalinise(แอล' คะนิไนซ) vt. ทำให้เป็นด่าง, เปลี่ยนให้เป็นด่าง -alkalinis (z) ation n. (make alkaline)
alkalise alkalize(แอค' คะไลซ) vt. ทำให้เป็นด่าง, เปลี่ยนให้เป็นด่าง -alkalization, alkalisation n.
alley-oop(แอลิอูพ') interj. คำอุทานที่เปล่งออกขณะที่ยกของหนัก
hallo(ฮะโล') interj.,v.,n. ฮัลโหล!, (การ) ร้องเสียงดัง,เปล่งเสียงดัง., Syn. halloa,hallo,hallow. hollo,holloa,holloo
allomerism(อะลอม' เมอริสซึม) n. ภาวะที่การผันแปรของส่วนประกอบทางเคมีไม่ทำให้รูปผลึกเปลี่ยนแปลง. -allomerous adjl.
allomorphism(แอลโลมอร์' ฟิสซึม) n., chem. การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบผลึก โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
alone(อะโลน') adj.,adv. คนเดียว, ลำพังตนเอง, โดดเดี่ยว, เปล่าเปลี่ยว, เอกเทศ. -aloneness n., Syn. unique, single, solitary, isolated ###A. befriended, together)
alter(ออล' เทอะ) vt.,vi. เปลี่ยน ,แปลง, แก้ไข, ดัดแปลง, ผันแปร -alteration n. ทำหมัน
English-Thai: Nontri Dictionary
absolve(vt) ให้อภัย,พ้นจากบาป,ปลดเปลื้อง
vagary(n) ความนึกฝัน,ความไม่แน่นอน,ความเปลี่ยนแปลง
aglow(adj) อิ่มเอิบ,เปล่งปลั่ง,แจ่มใส,สว่าง
alienate(vt) ทำให้แตกกัน,ทำให้บาดหมาง,เปลี่ยนเจ้าของ,โอน(เงิน)
alienation(n) การทำให้บาดหมางกัน,การเปลี่ยนเจ้าของ,การโอน(เงิน)
alone(adj,adv) โดยลำพัง,เปล่าเปลี่ยว,โดดเดี่ยว,เดียวดาย,เดี่ยว,เอกา
alter(vi) เปลี่ยนแปลง,ดัดแปลง,แก้ไข
alteration(n) การเปลี่ยนแปลง,การดัดแปลง,การแก้ไข
alternate(adj) หมุนเวียนกัน,ผลัดกัน,สลับกัน,เปลี่ยนกัน
bare(adj) เปลือย,โกร๋น,โล่งเตียน,ว่างเปล่า
barefoot(adv) เท้าเปล่า
barehanded(adj) มือเปล่า,ไม่สวมถุงมือ,ไร้อาวุธ
barelegged(adj) ไม่สวมถุงเท้า,ขาเปล่า
bark(n) เสียงเห่า,เปลือกไม้,เรือสำเภา
barter(n) การแลกเปลี่ยนสินค้า,การค้าขาย,การแลกเปลี่ยน
bassinet(n) เปลเด็ก
beaming(adj) เปล่งแสง,ฉายแสง,ปีติยินดี,ยิ้มแย้มแจ่มใส
become(vt) กลายเป็น,มาเป็น,เปลี่ยนเป็น,เหมาะ,สมควร,สอดคล้องกับ
bivalve(adj) มีสองลิ้น,มีสองเปลือก
blank(adj) ว่าง,ว่างเปล่า,จืดชืด,ไม่น่าสนใจ
blaze(n) แสงไฟ,ความสว่างช่วงโชติ,เปลวไฟ
bleak(adj) เยือกเย็น,เปล่าเปลี่ยว,มืดมัว
bloom(n) ดอกไม้บาน,ความเปล่งปลั่ง,การแตกเนื้อสาว
blubber(n) การร้องไห้,การสะอึกสะอื้น,เปลวไขมันของปลาวาฬ
brighten(vi,vt) สว่างขึ้น,แจ่มใสขึ้น,ร่าเริง,เบิกบาน,สดใส,เปล่งปลั่ง,แจ่มแจ้ง
brightness(n) ความสว่าง,ความสว่างไสว,ความแจ่มใส,ความเปล่งปลั่ง,ความฉลาด
cambium(n) เยื่ออ่อนระหว่างเปลือกไม้กับเนื้อไม้
change(n) การแลกเปลี่ยน,สิ่งที่เปลี่ยน,เงินปลีก,เงินทอน
changeable(adj) เปลี่ยนแปลงได้,ไม่แน่นอน,แลกได้
changeful(adj) เปลี่ยนแปลงได้,ไม่แน่นอน,แปรปรวน
changeless(adj) ไม่เปลี่ยนแปลง,แน่นอน,มั่นคง
changeling(n) เด็กที่ถูกสับเปลี่ยนกับเด็กอื่น
checkered(adj) มีตาสี่เหลี่ยม,เป็นตารางหมากรุก,เปลี่ยนง่าย
choppy(adj) เปลี่ยนแปลงเร็ว
coir(n) กาบมะพร้าว,เปลือกมะพร้าว
discoloration(n) การทำเปื้อน,การเปลี่ยนสี,การทำให้สีตก,การทำให้สีด่าง
commutate(vt) เปลี่ยน,สับเปลี่ยน,แปลงกระแส
commutation(n) การสับเปลี่ยน,การแลกเปลี่ยน,การลดโทษ,เงินชดเชย
commutator(n) เครื่องเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า,เครื่องสับเปลี่ยน
commute(vt) แลกเปลี่ยน,สับเปลี่ยน,เปลี่ยน,ลดโทษ
อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
associativeเปลี่ยนหมู่ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
barkเปลือกไม้ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
bastเปลือกใน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
cap crown; shell crownเปลือกครอบฟัน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
carapaceเปลือกสัตว์ขาปล้อง [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
cerebral cortex; cortex cerebriเปลือกสมอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
cortexเปลือก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
crustเปลือกโลก [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
featherเปลวขนนก [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔]
flaccidเปลี้ย, หย่อน, ปวกเปียก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
harsh flameเปลวแรง [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔]
hullเปลือกหุ้ม [มีความหมายเหมือนกับ span ๑] [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
oceanic crustเปลือกโลกใต้มหาสมุทร [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
ossifyเปลี่ยนเป็นกระดูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
rebaseเปลี่ยนฐาน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
rindเปลือกส้ม [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
scleraเปลือกลูกตา, ส่วนตาขาว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
seed coat; spermodermเปลือกเมล็ด [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
shellเปลือกระบบ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
stretcherเปลหาม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
tunic; tunicaเปลือก, สิ่งหุ้ม, ชั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
upshiftเปลี่ยนเกียร์ขึ้น [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
acornผลเปลือกแข็งมีกาบรูปถ้วย [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
affineการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
alterationการแปลง, การเปลี่ยนแปลงแก้ไข [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
alternationการสับเปลี่ยน, การสลับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
American Standard Code for Information Interchange (ASCII)รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการสับเปลี่ยนสารสนเทศ (แอสกี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ASCII (American Standard Code for Information Interchange)แอสกี (รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการสับเปลี่ยนสารสารสนเทศ) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
astheniaอาการอ่อนเปลี้ย, อาการหมดแรง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
bare concreteคอนกรีตเปลือย [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
barterการแลกเปลี่ยนสินค้า [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
becomingการแปรเปลี่ยน [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
blank diskจานบันทึกเปล่า [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
blank tapeแถบเปล่า [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
blank verseกลอนเปล่า [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
bodily exhibitionการแสดงอนาจาร (โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย) [ดู exhibitionism] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
cartel๑. ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเชลยศึก๒. การรวมกลุ่มเพื่อผูกขาดทางธุรกิจ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cation exchangeการแลกเปลี่ยนแคตไอออน [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
ceap๑. การต่อรองราคา๒. ของซื้อของขาย๓. วัตถุกลางในการแลกเปลี่ยน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
champlevéชองเปลอเว [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
barkเปลือกไม้, ผิวนอกของลำต้นนับตั้งแต่ชั้นของวาสคิวลาร์แคมเบียมออกมา [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Churnedเปลี่ยนแปลง [การแพทย์]
Claddingเปลือกหุ้มเชื้อเพลิง, โลหะที่ใช้ห่อหุ้มแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนเนื้อเชื้อเพลิงจากตัวทำให้เย็น และป้องกันผลผลิตการแบ่งแยกนิวเคลียสไม่ให้ออกมาปนในตัวทำให้เย็น วัสดุที่ใช้ เช่น อะลูมิเนียม โลหะผสมของอะลูมิเนียม เหล็กกล้าไร้สนิม และโลหะผสมของเซอร์โคเนียม
Concha Margariti Fera Ustaเปลือกหอยมุก [การแพทย์]
Cortexเปลือก,คอร์เทกซ์,ผิวสมอง,ส่วนนอก,ส่วนเนื้อของรังไข่,ชั้นเปลือก,ผนังกระดูก,รังไข่ส่วนนอก,ชั้นนอก,ชั้นกลาง,เปลือกใน [การแพทย์]
Cuticleเปลือกนอก,ชั้นนอกสุด,ผิวชั้นนอกของผนังลำตัว,คิวติเคิล,หนังกำพร้า,ผิวนอก,ผิวหนัง [การแพทย์]
Denatureเปลี่ยนสภาวะ,ถูกทำลาย,ถูกทำลายไปบางส่วน,เสียสภาพทางธรรมชาติ,แปรสภาพ,แปลงสภาพ,ผิดไปจากเดิม,แยกคู่ออกจากกัน,เสียสภาพทางธรรมชาติ [การแพทย์]
Derivedเปลี่ยนแปร,สกัด [การแพทย์]
Differentiateเปลี่ยนแปลง,แตกต่าง,แตกตัวเปลี่ยนสภาพ,การจำแนก [การแพทย์]
Dynamicเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา,เปลี่ยนแปลงได้,ลักษณะที่เปลี่ยนแปลง,พลวัต [การแพทย์]
Eggshellsเปลือกไข่ [TU Subject Heading]
Fire เปลวไฟ การเผาไหม้ โดยการเกิดปฏิกิริยาระหว่างสารกับออกซิเจนอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะให้ความร้อนออกมามาก การที่จะเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญครบ 3 ประการ ได้แก่ เชื้อเพลิง ความร้อน และออกซิเจน [สิ่งแวดล้อม]
Flameเปลวไฟ [การแพทย์]
Ghostเปลือกของเม็ดเลือดแดง [การแพทย์]
Markedly Involvedเปลี่ยนแปลงมาก [การแพทย์]
Metamorphoseเปลี่ยนรูป [การแพทย์]
Acquisitionการจัดหา การจัดหา (Acquisition) ในที่นี้หมายถึงการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมุด ศูนย์บริการสารสนเทศ ศูนย์บริการความรู้ ซึ่งหมายถึง กิจกรรมที่ให้ได้มาซึ่งทรัพยากรสารสนเทศ เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ โดยวิธีการต่าง ๆ ได้แก่ การจัดซื้อ การบอกรับเป็นสมาชิก การขอหรือได้รับบริจาค การแลกเปลี่ยน และการจัดทำขึ้นเอง
Affinity สัมพรรคภาพ การชอบสิ่งหนึ่งมากกว่าสิ่งหนึ่ง เช่น ในระบบแลกเปลี่ยนประจุ เรซินบางชนิด ชอบ Ca++ มากกว่า Na+ ถือว่ามี affinity กับ Ca++ มากกว่ากับ Na+ [สิ่งแวดล้อม]
Aggregation การเกิดเม็ดดิน กระบวนการเกาะตัวกันของอนุภาคเดี่ยว เป็นเม็ดดินซึ่งเกิดจากแรงและสารเชื่อมตามธรรมชาติ เช่น แรงจากการยืดหดปริมาตรดินเมื่อเปลี่ยนแปลงความชื้น สารเชื่อมจำพวกสารขับ (exudate) ของรากและกิจกรรมของจุลินทรีย์ [สิ่งแวดล้อม]
Alterationปลอมแปลงบางส่วน, การเปลี่ยนแปลง [การแพทย์]
Andalusite แอนดาลูไซต์ แหล่ง - พบตามหินแปรที่ถูกเปลี่ยนโดยหินแกรนิต พบตามหินดาน (Bed rock) ของเหมืองลานแร่ทั่ว ๆ ไป เช่น ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และระนอง ประโยชน์ - ใช้ทำพวกเครื่องเคลือบได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติทนไฟ ชนิดที่โปร่งใสทำเป็นรัตนชาติได้ [สิ่งแวดล้อม]
angular accelerationความเร่งเชิงมุม, อัตราการเปลี่ยนความเร็วเชิงมุมของวัตถุ หรือความเร็วเชิงมุมของวัตถุที่เปลี่ยนไปในหนึ่งหน่วยเวลา [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Anthracite แอนทราไซต์ ถ่านหินชนิดหนึ่ง มีการแปรสภาพสูงที่สุด ประกอบด้วยคาร์บอน ร้อยละ 92-98 (ภายใต้สภาวะที่แห้งและไม่มีแร่อื่นปะปน) เนื้อแข็ง สีดำ ความวาว แบบกึ่งโลหะ มักแตกแบบก้นหอย ติดไฟยากเมื่อไหม้ ให้เปลวไฟสีน้ำเงิน ไม่มีควัน ให้ความร้อนสูงที่สุดในบรรดาถ่านหินด้วยกัน [สิ่งแวดล้อม]
Activityกัมมันตภาพ, การสลายของนิวไคลด์กัมมันตรังสีต่อหน่วยเวลา ปัจจุบันหน่วยที่ใช้ คือ เบ็กเคอเรล คำนี้ตามรายงานฉบับที่ 33 ของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศด้านหน่วยและการวัดรังสี (International Commission on Radiation Units and Measurement: ICRU No. 33) ให้ความหมายว่า เป็นจำนวนของนิวไคลด์กัมมันตรังสีในขณะใดขณะหนึ่งที่สลายเปลี่ยนแปลงไปต่อวินาที (ดู Becquerel, Bq และ Curie, Ci ประกอบ) [นิวเคลียร์]
Additive สารปรุงแต่ง สารซึ่งนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นในปริมาณเพียง เล็กน้อย เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเคมีหรือทางกายภาพของสินค้า สารปรุงแต่งถูกนำมาใช้เพื่อทำให้อาหารดูน่าทานยิ่งขึ้น เพื่อถนอมอาหาร เพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามสารปรุงแต่งอาจเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้ เช่น เตตระเอทิลลีด (teraethyl lead) ที่ใช้เติมในน้ำมันเพื่อป้องกันการน็อคของเครื่องยนต์ (anti-knock) โดยเพิ่มค่าออกเทนในเครื่องยนต์ที่มีแรงขับเคลื่อนสูง [สิ่งแวดล้อม]
Adversity Intelligence/Quotientความสามารถฝ่าฝันอุปสรรคความสามารถของบุคคลในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ทางลบที่เกิดขึ้นกับตน ด้วยความอดทนทางกาย และความอดกลั้นทางจิตใจ เพื่อเผชิญและเอาชนะเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่มีความแน่นอน สถานการณ์หรือปัญหานั้นอาจจะดูเล็กน้อย [สุขภาพจิต]
Aldrinสารฆ่าแมลงกลุ่ม Chlorinated hydrocarbonสารฆ่าแมลงกลุ่ม Chlorinated hydrocarbon แต่เดิมสารนี้ถูกมองว่าเป็นสารฆ่าแมลงที่ปลอดภัย เนื่องจากสลายตัวได้อย่างรวดเร็วในดิน ต่อมาถูกจัดเป็นสารที่มีอันตรายร้ายแรงเนื่องจากพบว่า เมื่ออัลดรินเข้าสู่บรรยากาศจะถูกเปลี่ยนเป็นดิลดริน (dieldrin) ซึ่งมีความคงทนและสามารถสะสมอยู่ในร่างกายสิ่งมีชีวิตและเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อาหาร [สิ่งแวดล้อม]
Articulationพูดชัด, ความมั่นใจ, การดัดดึงข้อต่อ, ข้อต่อของมือ, ความชัดเจนของคำพูด, ข้อต่อ, เปล่งเสียงหรือคำ, ข้อต่อของกระดูก [การแพทย์]
Assembly languageภาษาแอสเซมบลี ภาษาระดับต่ำสำหรับใช้เขียนโปรแกรมแต่ละคำสั่งจะตรงกับคำสั่งภาษาเครื่องหนึ่งคำสั่ง ภาษาเครื่องนั้นปกติเป็นตัวเลขฐานสองหรือ 0 กับ 1 ซึ่งยากที่จะจำ ส่วนภาษาแอสเซมบลีนั้นเปลี่ยนเลข 0 กับ 1 ให้เป็นคำที่จำได้ง่าย เช่น A แทนคำว่า Add หรือบวก s แทน Subtract หรือลบ ทำให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายกว่าการท่องจำเลข 0 กับ 1 ภาษาแอสเซมบลีนี้มักจะแตกต่างกันไปตามประเภทและรุ่นของตัวประมวลผล (processor) และใช้ร่วมกันไม่ได้ [คอมพิวเตอร์]
Atomic Absorption Spectrometer เครื่องวัดระบบอะตอมมิก แอบซอพชั่น สเปคโตรมิเตอร์ เครื่องมือวัดปริมาณของตะกั่ว โดยใช้เปลวไฟอะเซทิลีน (Acetylene Flame) ที่ความยาวคลื่น 283.3 หรือ 217 นาโนมิเตอร์ (Nanometer) [สิ่งแวดล้อม]
Autoignition Temperature อุณหภูมิติดไฟอัตโนมัติ อุณหภูมิที่สารประเภทติดไฟได้ จะเกิดการลุกเป็นเปลวไฟขึ้นมาได้เอง เช่น ในกรณีของบิวเทน (butane-n) จะลุกติดไฟทันทีที่อุณหภูมิ 806 องศาฟาเรนไฮด์ หรือที่ 4100 องศาเซลเซียส เป็นต้น [สิ่งแวดล้อม]
avulsionการเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำอย่างฉับพลัน [การทูต]
Barterการแลกเปลี่ยนทรัพย์สิน [เศรษฐศาสตร์]
Blood Dyscrasiaโรคเลือด,ความผิดปกติของเลือด,การเปลี่ยนแปลงเส้นเลือดในจอตาเนื่องจากโรค,การเปลี่ยนแปลงของเม็ดเลือด,ระบบโลหิต,เลือดออกร่วมกับโรคทางโลหิต,ความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด,โรคเลือด,ความผิดปกติของเลือด,ความผิดปกติในเลือด [การแพทย์]
Balladลำนำนิทาน, ลำนำนิทาน, บัลลาดบัลลาดหรือศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถานสาขาวิชาวรรณกรรมคือ ลำนำนิทาน เป็นรูปแบบหนึ่งของคำประพันธ์บทร้อยกรองแบบดั้งเดิมที่บอกเล่าเรื่องเป็นเพลง แต่เดิมเป็นเพลงเล่าเรื่องถ่ายทอดด้วยปากเปล่าสำหรับการแสดงในที่สาธารณะ มักร้องโดยใช้ท่วงทำนองแบบดั้งเดิมและใช้ดนตรีประกอบการเต้นรำ บัลลาดส่วนใหญ่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นโศกนาฏกรรมของความรักหรือภัยพิบัติของบุคคล เป็นบทกวีสั้น ๆ โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของบทสนทนาประกอบการแสดง บัลลาดเป็นรูปแบบของบทกวีที่กวีและนักประพันธ์เพลงของอังกฤษมักนิยมใช้เพื่อเขียนลำนำเป็นโคลงบทสั้น ๆ ตั้งแต่ช่วงยุคกลางต่อมาจนถึงศตวรรษที่ 18 และใช้อย่างกว้างขวางทั่วไปในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลียและแอฟริกาเหนือ ต่อมาในศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน บัลลาดถูกนำมาใช้ในความหมายของเพลงป็อปเป็นเพลงช้า ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะใช้กับเพลงรัก
Bloom บลูม, (สาหร่าย) เบ่งบาน การเบ่งบานหรือการเพิ่มจำนวนของชีวพืชจำนวนมาก ทั้งที่มองเห็นและ ไม่เห็นด้วยตาเปล่าอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำมีสีเขียวหรือแดง [สิ่งแวดล้อม]
Bond พันธบัตร ตราสารทางการเงินที่ออกโดยองค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาล รัฐวิสาหกิจธนาคาร หรือบริษัทต่างๆ โดยสัญญาว่าจะจ่ายเงินกลับคืนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ประชาชนที่ซื้อพันธบัตรจะได้ดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดเป็นระยะๆ จนหมดอายุพันธบัตร โดยปกติจะมีการจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ ครึ่งปี แต่ในยุโรปมักจ่ายปีละครั้งพันธบัตรที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี จะเรียกว่าพันธบัตรระยะสั้น หากมีอายุระหว่าง 10-20 ปี เรียกว่าพันธบัตรระยะกลาง มีอายุมากกว่า 20 ปี เรียกว่า พันธบัตรระยะยาว พันธบัตรอาจจะไม่มีอายุ หรือพันธบัตรบางชนิดก็สามารถแปลงสภาพได้จะให้ผลตอบแทนแก่ผู้มีในรูปดอกผล จำนวนหนึ่ง ในอัตราคงที่รวมกับโอกาศที่จะได้กำไร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพันธบัตรเป็นหุ้นสามัญแล้วทำให้ราคาตลาดเพิ่มขึ้น ผู้ที่ออกพันธบัตรมากที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมาคือรัฐบาลกลางของประเทศต่างๆ [สิ่งแวดล้อม]
Brackish or Estuaries Ecosystem ระบบนิเวศน้ำกร่อย ระบบนิเวศในบริเวณที่น้ำมีความเค็มตั้งแต่ 2-30 ส่วนในพันส่วน เป็น ระบบนิเวศบริเวณปากแม่น้ำบริเวณที่มีการผสมผสานกันระหว่างน้ำจืด และน้ำทะเล มีการเปลี่ยนแปลงความเค็มตามฤดูกาล แต่ละบริเวณจะมี ลักษณะทางสัณฐานวิทยาและขนาดแตกต่างกันไป บริเวณน้ำกร่อยนี้ โดยทั่วไปเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุ อาหาร และผลผลิตทางชีวภาพสูง เนื่องจากได้รับสารอาหารมาจากแม่น้ำ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อนที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ องค์ประกอบที่สำคัญของบริเวณน้ำกร่อยในเขตร้อน คือ ป่าชายเลน (Mangrove Forest) [สิ่งแวดล้อม]
capillaryหลอดเลือดฝอย, หลอดเลือดขนาดเล็กมากแตกแขนงจากหลอดเลือดใหญ่ไปตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย มีผนังบาง ประกอบด้วยเซลล์เพียงชั้นเดียวเป็นที่แลกเปลี่ยนแก๊สและสารต่าง ๆ ระหว่างเซลล์กับเลือด [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Career changesการเปลี่ยนอาชีพ [TU Subject Heading]
Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary
gleam (vi.) เปล่งประกาย See also: ส่งแสงวูบเดียว Syn. flash, glimmer
gleaming (adj.) เปล่งปลั่ง See also: เป็นประกาย, สว่าง, สุกใส Syn. luminous, radiant
shining (adj.) เปล่งปลั่ง See also: เป็นประกาย, สว่าง, สุกใส Syn. gleaming, luminous, radiant
boom (vi.) เปล่งเสียง See also: เปล่งเสียงดัง Syn. rumble
breathe out (phrv.) เปล่งเสียง See also: พูด
phonate (vi.) เปล่งเสียง See also: ออกเสียง Syn. vocalize
phonate (vt.) เปล่งเสียง See also: ออกเสียง Syn. vocalize
utter (vt.) เปล่งเสียง See also: ออกเสียง Syn. pronounce
vocalize (vt.) เปล่งเสียง See also: ทำให้มีเสียง Syn. speak
vocalize (vi.) เปล่งเสียง
throat (vt.) เปล่งเสียงจากลำคอ
loose off (phrv.) เปล่งเสียงดัง
crumple up (phrv.) เปล่งเสียงร้อง (ด้วยความเจ็บปวดหรือหัวเราะ) Syn. double up
intonate (vt.) เปล่งเสียงสูงต่ำ See also: การออกเสียง
intone (vt.) เปล่งเสียงสูงต่ำ See also: การออกเสียง Syn. utter, voice
lip (vt.) เปล่งเสียงอย่างนุ่มนวล Syn. utter
let out (phrv.) เปล่งเสียงออกมา
sibilate (vt.) เปล่งเสียงเสียดแทรก
cheer (vt.) เปล่งเสียงแสดงความยินดี See also: เชียร์
hiss (vi.) เปล่งเสียงแสดงความไม่พอใจ
ตัวอย่างประโยค จาก Meemodel ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
No, I didn't really mean thatเปล่า ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริงๆ
No, I'm ten years olderเปล่า ฉันแก่กว่า 10 ปี
No, they're still awakeเปล่า พวกเขายังคงตื่นอยู่
There's no point in staying here any longerเปล่าประโยชน์น่าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปอีก
There's no point in trying to flatter meเปล่าประโยชน์น่าในการพยายามมาป้อยอฉัน
I'm sorry, do we know each other?ขอโทษนะ พวกเราเคยรู้จักกันหรือเปล่า
Do you have an appointment?คุณนัดไว้หรือเปล่า
You've changed littleคุณเปลี่ยนไปเล็กน้อย
I have to change my appointment from…ฉันต้องเปลี่ยนนัดจาก...
What's up with you? You're differentเกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือ คุณดูเปลี่ยนไป
We are wasting timeพวกเรากำลังเสียเวลาเปล่า
Have we ever met before?พวกเราเคยพบกันมาก่อนหรือเปล่า
I can changeฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขอโอกาสฉันอีกเถอะ
I haven't changed a lotฉันไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
I guess I shouldn't say that work is a waste of timeฉันคิดว่าฉันไม่ควรกล่าวว่างานนั่นเป็นการสิ้นเปลืองเวลาเปล่า
Did you get to the airport late?คุณไปสนามบินช้าหรือเปล่า?
Do you know what time is it?คุณทราบหรือเปล่านี่เวลาเท่าไหร่แล้ว?
It was a waste of timeเสียเวลาเปล่า
Does she know you're coming?เธอทราบหรือเปล่าว่าคุณจะมา?
Are you aware of difficulty?คุณรู้ถึงความยากลำบากหรือเปล่า?
How often do you change your toothbrush?คุณเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยแค่ไหน?
Did you do anything fun?คุณทำอะไรสนุกๆ บ้างหรือเปล่า?
Let not waste your time!อย่าเสียเวลาเปล่าเลย
Do you accept credit cards?คุณรับบัตรเครดิตหรือเปล่า?
I'm not sure whether I have locked the doorฉันไม่แน่ใจว่าฉันได้ล็อคประตูหรือเปล่า
He's nothing to me but an empty seatเขาไม่สำคัญอะไรสำหรับฉันเป็นแค่เก้าอี้ว่างเปล่า
You haven't changed muchคุณเปลี่ยนไปไม่มากเท่าไหร่
Does he make you happy?เขาทำให้คุณมีความสุขหรือเปล่า?
It's not too late to change your mindมันยังไม่สายเกินไปที่คุณจะเปลี่ยนใจ
But he changed horses in midstreamแต่เขาก็เปลี่ยนใจกลางคัน
Oh sorry, am I interrupting something here?โอ ขอโทษนะ ฉันมาขัดจังหวะอะไรที่นี่หรือเปล่า?
Have you lost anything?คุณทำอะไรหายหรือเปล่า?
Do you have a driver's license?คุณมีใบขับขี่หรือเปล่า?
Is there anything you want to say to me?คุณมีอะไรจะพูดกับฉันอีกหรือเปล่า?
I won’t change my mindฉันจะไม่เปลี่ยนใจ
Are you seeing anybody else?คุณกำลังคบหากับใครคนอื่นอยู่หรือเปล่า?
Don't waste wordsอย่าสิ้นเปลืองคำพูดเลย
Do you feel embarrassed when you speak English?คุณรู้สึกอายเมื่อพูดภาษาอังกฤษหรือเปล่า?
Is your pronunciation bad?การออกเสียงของคุณแย่หรือเปล่า?
Do they seem confused when you speak English?พวกเขาดูสับสนเมื่อฟังคุณพูดภาษาอังกฤษใช่หรือเปล่า?
ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles
"out of the temple of heaven from the throne, saying,เปล่งจากวิหารแห่งสวรรค์ จากแท่นบรรลังค์.. กล่าวว่า
Shining wisdomเปล่งประกายความรอบรู้
Shining with that same light.เปล่งประกายสวยงามเหมือนเดิมไม่ผิด
Would break into a million pieces...เปล่งประกายออกเป็นหลายล้านชิ้น
Shine for me again Little Princeเปล่งประกายอีกสักครั้งเถอะ เจ้าชายตัวน้อย
Shining, shimmering, splendid.เปล่งปลั่ง ระยิบระยับ สวยงาม
The hallmark of any rising Supreme is glowing, radiant health.เปล่งปลั่ง สุขภาพดี แมดิสันมีอาการหัวใจมีเสียงฟู่
Throatier and more mannish.เปล่งเสียงจากลำคอให้ดูเหมือนคนมากกว่านี้
(AIR HISSING)เปล่งเสียงดังกล่าว AIR)
Raise your hopeful voiceเปล่งเสียงอันเปลี่ยมด้วยความหวัง
Shine your light on his face.เปล่งแสงของคุณบนใบหน้า ของเขา
Manifest your light, then let it reabsorb into you.เปล่งแสงเธอออกมา แล้วให้มันซึมซับกลับสู่ตัวเธอ
This hammock's shorter than the last one.เปลญวนนี้สั้นกว่าอันที่แล้วอีก
Smoke rises from the Mountain of Doom.เปลวควัน พวยพุ่งจากภูเขาไฟ
The first of two very powerful solar flares is set to arrive momentarily.เปลวสุริยะระดับรุนแรง 2 ครั้งแรก จะมาถึงโลกในไม่ช้า
Fire purges and purifies, scatters our enemies to the wind.เปลวอัคนีจงช่วยปลดปล่อยและชำระล้าง ขจัดศัตรูของเราให้เจ้าแห่งเวหา
The fire cleansed them of the sins of the world.เปลวเพลิงชำระบาปพวกเขา
The flames turned blue and I heard a voice answer his call.เปลวเพลิงเปลี่ยนเป็นสีฟ้า และข้าได้ยินเสียงปริศนา ตอบรับเสียงเรียกของเขา
Flames, burn back our path.เปลวไฟ จงเผาไหม้ทางข้างหลังเรา
The flames of war... are upon you.เปลวไฟของสงคราม ... ... คุณอยู่บน
Damn blaze of glory with those damn motel lighters.เปลวไฟจะโชติช่วงเพราะไฟเช็ค จากโมเต็ลของแกนั่นแหละ
A flame bursts from within me.เปลวไฟระเบิดจากภายในค่ะ
The flame is dim, but it flickers.เปลวไฟสลัวลง แต่ยังก็ยังวูบวาบอยู่
When my time is up, let me save one more life before I go.เปลวไฟเริ่มมอดไหม้มากขึ้น
These flames are also from plants. A pocket of sunlight.เปลวไฟเหล่านี้ได้มาจากพืช แสงอาทิตย์อัดแท่ง
Saw the feeble flame rise and fall.เปลวไฟโชติช่วงขึ้นแล้วก็ดับไป
The Hummer was engulfed in flames.เปลวไฟได้ปกคลุมไปทั่ว
I'm fine. I just need to take a minute.เปลสร้างร่างเนื้อเยื่อ คุณได้มาไหม
You're a brilliant woman, Helen.เปลสร้างเนื้อเยื่อสร้างได้แค่เนื้อเยื่อ สร้างร่างมีชีวิตไม่ได้
N-No, I think you should use your greatest weapon-- your voice.เปล่า…ฉันคิดว่าควรใช้ อาวุธสุดยอดของนาย เสียงของนาย
What did you just call him? Oh, n-n-no. I didn't call him anything.เปล่า…ผมพูดถึงผ้าคลุม
No,he never had one. He's a she. Must have misread the first sonogram.เปล่า…เขาไม่เคยมีไอ้นั่น เขาเป็นผู้หญิง คงดูผิดจากการตรวจครั้งแรก ขอโทษด้วย
No, I was just-- it's ok, kid. Really.เปล่า , แค่\ ไม่เป็นไรจริงๆนะ
No. Because once you've tasted it, that's all you want to drink.เปล่า ,รสขมแม้จะติดปากแต่รสชาตินั้นติดใจ
No, but I'm gonna call the cops because there's something fishy going on around here.เปล่า ,แต่ผมจะแจ้งตำรวจ เพราะมันชัก เหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล
Mnh-mnh. "you're getting colder."เปล่า "เธอต้องหนาวแน่ๆ"
It's just that this is our first real case back at it together.เปล่า "เรา"ต่างหากที่ต้องฝึกทำงานร่วมกัน ฉันกับนาย เป็นทีมเดียวกัน ตกลงมั้ย
No. [Cat meows]เปล่า [เสียงแมวร้อง]
I just didn't want you to get hurt,okay? Look,relax.เปล่า ๆ ๆ ฉันอยากช่วยนาย
No,no,no. don't -- i'm -- i'm not angry.เปล่า ๆ ๆ ผมไม่ได้โกรธคุณ

เปล ในภาษาญี่ปุ่น

Japanese-Thai: Saikam Dictionary
一新[いっしん, isshin] Thai: เปลี่ยนใหม่หมด English: complete change
乗り換える[のりかえる, norikaeru] Thai: เปลี่ยน(รถ) English: to transfer (trains)
化ける[ばける, bakeru] Thai: เปลี่ยนรูปเป็น English: to take the form of
変更[へんこう, henkou] Thai: เปลี่ยนแปลง English: change (vs)
慣性[かんせい, kansei] Thai: วัตถุที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะใด ๆ หากไม่มีอะไรมากระทบถูก English: inertia
音便[おんびん, onbin] Thai: การเปลี่ยนแปลงของเสียงอันเนื่องมาจากเสียงข้างเคียงในภาษาญี่ปุ่น English: euphonical change
音便[おんびん, onbin] Thai: เสียงที่เปลี่ยนไปจากกฏเกณฑ์การผันเดิม English: euphony

สิ้นสุดผลการค้นหา ความหมาย คำแปล แปลว่าอะไร สำหรับคำว่า เปล