English-Thai: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
---|---|
การเขียน | (n.) writing |
การเขียนเรื่อง | (n.) writing a story See also: making a story, inventing a story Syn. การปั้นเรื่อง, การสร้างเรื่อง |
การเขียนแผนที่ | (n.) cartography See also: mapping |
การเขียนไทย | (n.) Thai dictation |
สิทธิเสรีภาพในการเขียน | (n.) liberty of writing See also: freedom of writing Syn. อิสระในการเขียน |
อิสระในการเขียน | (n.) liberty of writing See also: freedom of writing Syn. สิทธิเสรีภาพในการเขียน |
อุปกรณ์การเขียน | (n.) stationery Syn. เครื่องเขียน |
เสรีภาพในการเขียน | (n.) liberty of writing See also: freedom of writing Syn. สิทธิเสรีภาพในการเขียน, อิสระในการเขียน |
English-Thai: HOPE Dictionary | |
---|---|
access method | วิธีเข้าถึงโปรแกรมสำหรับเข้าถึงหมายถึง ระเบียบวิธีการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่งสำหรับการเก็บและเรียกใช้ข้อมูลมี 2 วิธี คือ วิธีการเข้าถึงโดยตรง (direct) หรือโดยสุ่ม (random) และวิธีการเข้าถึงโดยอ้อม (indirect) หรือโดยลำดับ (sequential) ดู direct และ indirect access ประกอบ |
aerography | (แอรอก' กระฟี) n การเขียนบรรยากาศเกี่ยวกับอากาศหรือบรรยากาศ. -aerographer n., -aerographic adj. |
algol | (แอล' กอล) n. Algo (rithmic) L (anguge) เป็นภาษาหนึ่งในการทำ programming ของระบบคอมพิวเตอร์ ย่อมาจากคำว่า ALGOrithmic Language เป็นภาษาที่ใช้ ในการเขียนโปรแกรม ปัจจุบันนี้ ภาษานี้เกือบจะไม่มีใช้แล้ว เพราะเป็นภาษาที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน แต่ก็ถือกันว่าเป็นต้นตระกูลของ ภาษาปาสกาล (Pascal) |
algorithm | (แอล' กะริธธึม) n. ระบบกฏเกณฑ์ในการแก้ปัญหาของจำนวนที่แน่นอนทางคณิตศาสตร์เช่นในการหาค่าของตัวหารร่วมที่สุด., Syn. algorism, -algorithmic adj. ขั้นตอนวิธีอัลกอริทึมหมายถึง การวิเคราะห์แยกแยะวิธีการทำงานให้เป็นขั้นเป็นตอนโดยกำหนดให้เรียงกันไปตามลำดับ การเขียนโปรแกรมในยุคแรก ๆ นั้น ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องมองเห็นขั้นตอนในการแก้ปัญหาอย่างแจ่มชัดเสียก่อน จึงจะเขียนโปรแกรมได้ |
all-purpose computer | คอมพิวเตอร์เอนกประสงค์หมายถึง คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบขึ้นใช้เพื่อให้ทำงานสนองความต้องการได้หลายวัตถุประสงค์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่อาจใช้วิธีการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่งเพื่อสั่งให้ทำงานได้ด้วยภาษาต่าง ๆ หลายภาษา (คอมพิวเตอร์ที่พูดถึงโดยทั่วไปในปัจจุบันนี้ ส่วนมากจะเป็นคอมพิวเตอร์เอนกประสงค์ทั้งสิ้นดู special purpose computer เปรียบเทียบ |
allograph | (แอล' โลกราฟ) n. การเขียนหรือการเซ็นชื่อดดยคนหนึ่งเพื่ออีกคนหนึ่ง |
anamorphosis | (แอนนะมอร์ไฟ' ซิส) n. การเขียนภาพที่ผิดจากธรรมชาติ (เช่นจากภาพที่ส่องด้วยกระจก) |
anaphora | (อะแนฟ' เฟอระ) n. การเขียนซ้ำคำในตอนแรกเริ่มของโคลงหรืออนุประโยคหรือประโยค |
ansi c | (แอนซี ซี) หมายถึงข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาซี (C language) ที่สถาบันแอนซี (ANSI) เป็นผู้กำหนดไว้ บริษัทที่ผลิตตัวแปลภาษาซี (C compiler) ก็ พยายามที่จะทำทุกอย่างตามมาตรฐานนี้ แต่ก็ได้เพิ่มคุณสมบัติต่าง ๆ เข้าไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก จนบางครั้งเหมือนกับลืมจุดประสงค์ดั้งเดิมไปเลยดู ANSI ประกอบ |
authoring system | ระบบการเขียนโปรแกรมหมายถึง ระบบการเขียนโปรแกรมโดยที่ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านโปรแกรมเลย ผู้เขียนเพียงแต่ใช้ภาษาง่าย ๆ ในรูปแบบเชิงโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์เท่านั้น |
authorship | (ออ'เธอชิพ) n. อาชีพการเขียนหนังสือหรือบทความ,แหล่งที่มาของผลงาน |
backhand | (แบค'แฮนดฺ) n. การตีลูกบอลทางด้านตรงข้ามกับมือที่ถือไม้ตี,การเขียนไปทางซ้าย, See also: backhandness n. ดูbackhand |
base number | เลขฐานหมายถึง จำนวนสัญลักษณ์ที่ ใช้บอกว่าเลขในระบบนั้น ๆ ว่ามีสัญลักษณ์โดด ๆ กี่ตัว เช่น ระบบฐานสิบมีสัญลักษณ์ 10 ตัว ระบบฐานสิบหกมีสัญลักษณ์ 16 ตัว เป็นต้น ในการเขียน มักจะต้องบอกฐานกำกับไว้ด้วยเสมอ |
bcd | (บีซีดี) ย่อมาจาก binary coded decimal ถ้าแปลตรง ๆ ก็คือ เลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสอง เป็นเทคนิคที่ใช้ใน การเขียนโปรแกรมเพื่อประกันความแม่นตรงของการคำนวณ โปรแกรมประเภท ตารางจัดการ (spreadsheet) มักใช้เทคนิคนี้ |
boolean logic | ตรรกะแบบบูลหมายถึง ค่า"จริง" (True) หรือ "ไม่จริง " (False) ใช้มากในการเขียนโปรแกรม เป็นหลัก พิชคณิต ที่ตั้งตามชื่อของผู้คิด คือ ยอร์ช บูล (George Boole) หลักทั่วไปคล้ายพิชคณิต ธรรมดา แต่ใช้ระบบเลขฐานสอง |
assembly language | ภาษาแอสเซมบลีหมายถึง ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่งซึ่งจะตรงเข้าไปจัดการกับตัวไมโครโพรเซสเซอร์ หรือ "ตัวประมวลผล" ของเครื่องคอมพิวเตอร์ และจะทำการประมวลผลโดยตรงได้เลย โดยปกติ ภาษานี้จะเรียนยากและต้องเขียนยาวกว่าภาษา C หรือภาษา BASIC แต่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ (result) เร็วกว่า และใช้เนื้อที่เก็บน้อยกว่าโปรแกรมภาษาอื่นมาก นิยมใช้ภาษานี้เมื่อต้องการประหยัดเวลาทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม โดยไม่ต้องพะวงถึงความชัดเจนมากนัก และที่สำคัญก็คือ โปรแกรมภาษานี้จะเขียนขึ้นมาเพื่อใช้เฉพาะกับเครื่องใดเครื่องหนึ่ง หากจะนำไปใช้กับเครื่องคนละรุ่น ก็จะต้องมีการปรับแก้ก่อน (ขึ้นกับหน่วยประมวลผลหรือ CPU) |
basic | (เบ'ซิค) 1. adj. เกี่ยวกับฐาน,เกี่ยวกับด่าง 2. เป็นภาษาระดับสูง (high level language) ภาษาหนึ่งใช้ในการเขียนโปรแกรม ภาษาเบสิกนี้เขียนง่าย ๆ เหมาะกับผู้เริ่มต้นเรียน คำว่า BASIC นั้นย่อมาจาก Beginner's All-purpose Symbolic Instruction Code แปลได้ว่า รหัสคำสั่งที่เป็นสัญลักษณ์เอนกประสงค์สำหรับผู้เริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์ เมื่อเริ่มนำออกใช้ใหม่ ๆ ภาษานี้มีข้อจำกัดมาก ในปัจจุบันแม้จะมีการพัฒนาภาษานี้ไปไกลแล้ว แต่นักทำโปรแกรมทั่วไปมักจะดูถูกว่า เป็นภาษาสำหรับผู้เริ่มต้น และไม่นิยมนำมาใช้ในการเขียนโปรแกรมใหญ่ ๆ ข้อดีของภาษานี้ก็คือ จะทราบที่ผิดและแก้ไขได้ทันที |
c | (ซี) n. พยัญชนะอังกฤษตัวที่3,ตัวเลข100ของโรมัน,สัญลักษณ์ทางเคมีของธาตุคาร์บอน ภาษาซีเป็นภาษาระดับสูง (high level language) ภาษาหนึ่ง ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม ภาษานี้เริ่มต้นมาจากห้องปฏิบัติการของบริษัท Bell ในช่วงทศวรรษ 1970 ภาษาซีนี้ เป็นภาษาที่ใช้ทั่วไปเทียบเคียงได้กับภาษาเบสิก (BASIC) หรือภาษาปาสกาล (Pascal) ความที่ภาษาซีเป็นภาษาที่ใช้ง่ายและสะดวก โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เช่น Lotus 1-2-3 และ Microsoft FoxPro ก็เขียนด้วยภาษาซี ภาษาซีได้เปรียบภาษาอื่น ๆ อย่างน้อย 3 ประการด้วยกัน คือ 1. ภาษาซีง่ายในการเขียน และเรียนรู้ได้ง่ายเกือบจะเท่ากับภาษาเบสิก2. โปรแกรมภาษาซีใช้เวลาของเครื่อง (คอมพิวเตอร์) น้อยมาก พอ ๆ กับภาษาแอสเซมบลี (Assembly) แต่เขียนได้ง่ายกว่ากันมาก3. ภาษาซีใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นแมคอินทอชหรือไอบีเอ็ม (แทบจะไม่ต้องแก้ไขดัดแปลงอะไรเลย ผิดกับภาษาเบสิกและภาษาปาสกาล ซึ่งหากนำไปใช้กับเครื่องต่างตระกูลกันแล้ว จะต้องแก้ไขมากจนเรียกได้ว่าไม่คุ้ม |
caret | ^ (สัญลักษณ์) หมายถึง สัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกดแป้น Shift+6 (^) สัญลักษณ์นี้ใช้ในการเขียนโปรแกรมของบางภาษา โดยจะแทนคำสั่งเฉพาะบางคำสั่ง มีความหมายแตกต่างกันไป เช่น ^ ในภาษาปาสกาล (Pascal) ใช้แทนตัวชี้ (pointer) , ^ ใน ภาษาซี (C) ใช้แทนตัวดำเนินการ exclusive OR, ^ ใน ภาษาเบสิก (BASIC) ใช้แทนการยกกำลัง เป็นต้น |
caricature | (แค'ระคะเชอะ) {caricatured,caricaturing,caricatures} n. ภาพล้อ,ภาพล้อบุคคล,การ์ตูนล้อเลียน,ศิลปะการเขียนภาพล้อเลียน vt. เขียนภาพหรือการ์ตูนล้อเลียน, Syn. travesty |
ccp | (ซีซีพี) ย่อมาจาก Certificate in Computer Programming หมายถึงประกาศนียบัตรที่ให้แก่ผู้ที่สอบผ่านความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การสอบนี้จะทำปีละ 1 ครั้งในประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯ |
charactery | n. ตัวอักษรหรือเครื่องหมายการพิมพ์หรือการเขียนทั้งหลาย |
circumscription | (เซอคัมสคริพ'เชิน) n. การเขียนวงกลมรอบ,การจำกัดเขต,ขอบเขต,โครงร่าง,เส้นรอบวง,คำนิยาม,คำจำกัดความ,ลายริม, See also: circumscriptive adj. |
cobol | (โคบอล) ย่อมาจาก Common Business Oriented Language เป็นภาษาระดับสูง (high level language) ภาษาหนึ่ง แรกเริ่มเดิมที นิยมใช้ในการเขียนโปรแกรมสำหรับงานด้านธุรกิจ ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (mainframe) แต่ปัจจุบัน ได้รับการดัดแปลงให้ใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ภาษาโคบอลนี้ออกจะละม้ายคล้ายคลึงกับภาษาอังกฤษธรรมดาอยู่ค่อนข้างมาก ภาษานี้เป็นภาษาสากล ที่ยังมีคนนิยมใช้กันแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน |
computer specialist | ผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์หมายถึง ผู้ที่มีความรู้พิเศษในเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ อาจหมายถึง ระบบตัวเครื่อง การเขียนโปรแกรม หรือการวิเคระห์ระบบ ก็ได้ |
control statement | ข้อความสั่งควบคุมในการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่งนั้น โดยปกติ เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงานตามคำสั่งไปทีละคำสั่ง โดยเรียงไปตามลำดับก่อนหลัง แต่เราอาจใช้ข้อความสั่งให้ควบคุมการทำงานได้เช่น กระโดดข้าม, วนกลับไปทำบางคำสั่งใหม่หรือวนหลาย ๆ รอบหรือหยุดทำถ้า ... ข้อความสั่งเหล่านี้มีอยู่หลายคำสั่ง ขึ้นอยู่กับภาษาเป็นต้นว่า GOTO, DO,IF ในภาษาฟอร์แทรน หรือ FOR.....NEXT ในภาษาเบสิก |
cryptograph | (คริพ'ทะกราฟ) n. = cryptogram,ระบบการเขียนอักษรลับหรือรหัสลับ,เครื่องเขียนรหัสหรืออักษรลับ |
cubism | (คิว'บิสซึม) n. ศิลปะการเขียนภาพและปฎิมากรรมแบบ3มิติ., See also: cubist n. cubistic adj. |
ddt | (ดีดีที) ในความหมายทั่วไป คำนี้หมายถึง "ยาฆ่าแมลง" นำมาใช้ในวงการคอมพิวเตอร์ เป็นคำแสลงหมายถึง การแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดในโปรแกรมในกรณีที่มีมาก ๆ (ทั้งนี้เพราะในการเขียนโปรแกรมนั้น เราเรียกจุดบกพร่องในโปรแกรมว่า แมลง หรือ bug โดยปกติแล้ว การแก้ไขธรรมดา ๆ จะใช้คำว่า debug) |
dictation | (ดิคเท'เชิน) n. การบอกให้เขียนตามคำบอก,การเขียนตามคำบอก,การบงการ,กำหนดเอาตามใจชอบ |
dissertation | n. ปริญญานิพนธ์ (โดยเฉพาะของปริญญาเอก) ,การสนทนา,การบรรยาย,การเขียนบทความ, See also: dissertational adj. ดูdissertation dissertationist n. ดูdissertation, Syn. treatise,thesis |
elliptic | (อิลิพ'ทิเคิล) adj. ซึ่งเป็นรูปไข่,เกี่ยวกับการพูดหรือการเขียนที่ย่อเกินไป,คลุมเครือ., See also: ellipticalness n. |
elliptical | (อิลิพ'ทิเคิล) adj. ซึ่งเป็นรูปไข่,เกี่ยวกับการพูดหรือการเขียนที่ย่อเกินไป,คลุมเครือ., See also: ellipticalness n. |
erratum | (อิเร'ทัม) n. ความ (ข้อ) ผิดในการเขียนหรือพิมพ์, Syn. error -pl. errata |
event-driven programming | การเขียนโปรแกรมเชิงเหตุการณ์หมายถึง วิธีการเขียนโปรแกรมวิธีหนึ่งที่จะนำเอาเหตุการณ์จริงเข้ามาใช้ และจะรอคอยให้ผู้ใช้ กดแป้นพิมพ์ หรือเมาส์ เสียก่อนที่จะลงมือปฏิบัติงานตามขั้นตอนใด ๆ |
expression | (อิคซฺเพรส'เชิน) n. การแสดงออก,การแสดง ออกเป็นคำพูด,การแสดงเครื่องหมายหรือสูตร,คำพูดที่แสดงออก,ลักษณะท่าทาง,น้ำเสียง,เครื่องหมาย,สูตร,ศัพท์,วิธีการเขียน. -Phr. (beyond (past) expression ซึ่งไม่สามารถจะบรรยายได้,เหนือคำพรรณนา) . คำที่มีความหมายเหมือนกัน |
file processing | การประมวลผลแฟ้มข้อมูลหมายถึงการนำแฟ้มข้อมูลมาประมวลผล โดยปกติหมายถึงการเขียนโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำให้ เพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ |
fibonacci numbers | เลขไฟโบนาชชี่หมายถึง แบบแผนทางคณิตศาสตร์แบบหนึ่งที่กำหนดให้ จำนวนเลขลำดับที่สาม เป็นผลบวกของเลขสองตัวที่อยู่ลำดับ ก่อนหน้า เช่น 4, 8, 12, 20, 32..... (12 เป็นผลบวกของ 4 กับ 8 และ 20 เป็นผลบวกของ 8 กับ 12 เป็นดังนี้ไปเรื่อย ๆ) ใช้ได้ดีในการเขียนโปรแกรมบางโปรแกรม เพราะทำให้สามารถเข้าสู่จุดตำแหน่งที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น (บางทีเรียก fibonacci series หรืออนุกรมไฟโบนาชชี) |
first generation computer | คอมพิวเตอร์ยุคที่หนึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ มนุษย์ได้พัฒนาเครื่องมือนี้ติดต่อกันมาตลอด ทำให้มีการแบ่งวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ออกเป็นยุค (generation) พัฒนาการของคอมพิวเตอร์ยุคแรกถือว่าเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1951 ถึงต้น ค.ศ.1960 คอมพิวเตอร์สมัยนั้นสามารถเก็บโปรแกรมได้ ใช้หลอดสุญญากาศเป็นหน่วยความจำ ทำให้มีขนาดใหญ่ กินเนื้อที่มาก ระหว่างทำงาน จะทำให้เกิดความร้อนสูงตลอดเวลา การทำงานจะทำได้ทีละอย่าง และจะเรียงกันไปตามลำดับคำสั่งอย่างเคร่งครัด ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมก็มีแต่ภาษาแอสเซมบลี (assembly language) ดู generation ประกอบ |
flowchart | ผังงานหมายถึง ผังที่ประกอบด้วยเส้นและสัญลักษณ์รูปต่าง ๆ ซึ่งนักเขียนโปรแกรมใช้ เพื่อให้มองเห็นขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม ก่อนจะลงมือเขียน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผังงานกว้าง ๆ (general flowchart) และผังงานละเอียด (detailed flowchart) ผังงานจะช่วยทำให้เข้าใจการทำงาน ทำให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้น เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งผู้เขียนโปรแกรมจะต้องเป็นผู้กำหนดให้ ผังงานจะช่วยให้ผู้เขียนโปรแกรมมองเห็นขั้นตอนต่าง ๆ จากสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ง่ายเข้า และไม่เกิดความสับสน โดยเฉพาะปัญหาที่ซับซ้อนมาก ๆ ดู general flowchart และ detailed flowchart ประกอบ |
English-Thai: Nontri Dictionary | |
---|---|
hyperbole | (n) การขยายความ,การพูดเกินจริง,การเขียนเกินเลย |
dictation | (n) คำสั่ง,การบงการ,การเขียนตามคำบอก |
dissertation | (n) การสนทนา,การถกปัญหา,การบรรยาย,การเขียนตำรา,วิทยานิพนธ์ |
fresco | (n) การเขียนภาพบนผนังปูน |
journalism | (n) การหนังสือพิมพ์,วารสารศาสตร์,การเขียนข่าว |
painting | (n) ภาพเขียน,การเขียนภาพ,การทาสี,การระบายสี |
parody | (n) เรื่องล้อ,การเขียนล้อ,ของเก๊,ของกำมะลอ |
penmanship | (n) การคัดลายมือ,การคัดหนังสือ,การเขียนหนังสือ |
portrayal | (n) การวาดภาพ,การเขียนภาพคน,การพรรณนา |
quirk | (n) การเขียนเล่นหาง,การเหไป,การเล่นสำนวน,การเล่นโวหาร |
romanticism | (n) การเขียนเรื่องแนวโรแมนติก |
scrawl | (n) ลายมือหวัด,การเขียนลวกๆ |
slur | (n) การเขียนติดกัน,การพูดทอดเสียง |
writing | (n) การเขียน,ข้อเขียน,ลายมือ,ตัวหนังสือ,จดหมาย,เอกสาร,การแต่งหนังสือ์ |
อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน | |
---|---|
encaustic painting; encaustic | การเขียนสีขี้ผึ้งร้อน [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
programming | ๑. การเขียนโปรแกรม๒. การสร้างโปรแกรม [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
write protection | การป้องกันการเขียนทับ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช. | |
---|---|
Authorship | การเขียนหนังสือ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] |
Handwriting | การนำข้อมูลเข้าด้วยการเขียนด้วยมือ [Assistive Technology] |
Hornbook | หนังสือเรียนเบื้องต้นHornbook หมายถึง หนังสือเรียนเบื้องต้น เป็นหนังสือสำหรับเด็กเริ่มเรียน จัดทำขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1440 เนื่องจากการจัดพิมพ์หนังสือในระยะแรก ๆ มีราคาค่อนข้างแพงเกินกว่าจะนำมาให้เด็กใช้เริ่มเรียน Horn Book ไม่ได้มีลักษณะเป็นหนังสือเล่มๆ อย่างในปัจจุบัน แต่เป็นแผ่นไม้สี่เหลี่ยมเล็กๆ มีขนาดประมาณ 2 ¾ นิ้ว x 5 นิ้ว ด้านหนึ่งของแผ่นไม้ปิดทับด้วยแผ่นหนัง และปิดประกบทับอีกชั้นหนึ่งด้วยแผ่นเขาสัตว์บางใสตรึงด้วยแถบทองเหลืองรอบขอบทั้งสี่ด้าน มีด้ามถือและที่ด้ามเจาะรูร้อยเชือกสำหรับคล้องคอ หรือแขวนที่เอว หรือที่ข้อมือ เนื้อหาบนแผ่นหนังเป็นตัวพยัญชนะแบบต่างๆ การสะกดคำแบบง่าย ๆ และบทสวด แต่มักจะเน้นสอนการเขียนอ่าน และเรื่องราวทางศาสนา |
Lesson Plan | การเขียนแผนการสอน, บันทึกการสอน [การแพทย์] |
Novel | นวนิยายนวนิยาย มาจากภาษาอังกฤษว่า Novel และ Novella ในภาษาอิตาเลียน คำนี้ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเรียกนวนิยายอย่างใหม่ของบอกาจิโอ (Boccaio) ที่แต่งเรื่อง เดคาเมรอน (Decameroa) ซึ่งแต่งขึ้นราว ค.ศ. 1338-1340 การที่เรื่องเดคาเมรอน ได้รับการกล่าวขวัญจากคนสมัยนั้นว่าเป็นนิยายแบบใหม่หรือนวนิยายนั้น เป็นเพราะบอกาจิโอ เริ่มใช้กลวิธีการเขียนตามแบบ นวนิยายในสมัยปัจจุบันกล่าวคือ เขียนเล่าเป็นเรื่องสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ในแง่มุมต่างๆ อย่างสมจริง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้อ่านเห็นว่าเรื่องราวดังกล่าวในวรรณกรรมนั้นเป็น เรื่องสมมุติไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ก็มีวิธีการเสนอเรื่องให้ยอกย้อนชวนติดตาม และมีแนวคิดกว้างขวาง มีลักษณะต่างไปจากการเขียนนิทานนิยายแต่เดิมที่มักสร้างเรื่องจากจินตนาการ และอุดมคติของผู้เขียน แต่ผู้เขียนกลับทำให้เรื่องที่อ่านนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องจริง โดยอาศัยการเล่าเรื่องให้เป็นไปตามลำดับเหตุการณ์แล้วสะท้อนแนวคิดสำคัญของ เรื่องให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาของศาสนาเป็นต้น อย่างไรก็ตามเรื่องเดคาเมรอน ก็เป็นเรื่องต้นเค้าของการเขียนนวนิยายตะวันตกเท่านั้น ยังไม่ได้มีลักษณะเป็นนวนิยายอย่างในปัจจุบันอย่างแท้จริงนัก แต่ก็มีอิทธิพลต่อนักเขียนในยุคนั้นและยุคต่อมาด้วย เพราะหลังจากนี้เป็นต้นมา ก็มีการเขียนนวนิยายหรือเรื่องเล่าแบบใหม่ก็กลายเป็นรูปแบบวรรณกรรมอย่าง ใหม่ที่แพร่หลายไปทั่วยุโรป(สายทิพย์ นุกูลกิจ. 2537 : 171-172) นวนิยายตามแบบแผนเช่นปัจจุบันนี้เริ่มมีขึ้นเมื่อตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักประพันธ์นวนิยายที่แท้จริงคนแรกของอังกฤษ คือ แดเนียล เดอโฟ (Daniel Defoe) ซึ่งแต่งเรื่อง โรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe) เมื่อ ค.ศ. 1719 |
number system | ระบบจำนวน, วิธีการเขียนตัวเลขเพื่อแทนจำนวน และการใช้โอเปอเรชันกับจำนวน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Programming | การเขียนโปรแกรม [คอมพิวเตอร์] |
Proposal writing for grants | การเขียนโครงการเพื่อขอรับทุน [TU Subject Heading] |
Short story | การเขียนเรื่องสั้น [TU Subject Heading] |
Smalltalk | ภาษาสมอลล์ทอล์กภาษาระดับสูงที่มีลักษณะเิชิงวัตถุที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงานนักวิจัยของบริษัทซีรอกซ์ ที่ศูนย์ปฏิบัติการพาโลอัลโตในสหรัฐอเมริกา ภาษานี้เป็นภาษาที่นำแนวคิดด้านวัตถุมาใช้ในการเขียนโปรแกรม และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น [คอมพิวเตอร์] |
Parchment | แผ่นหนังสัตว์แผ่นหนังสัตว์ (Parchment) อาจเป็นหนังแกะแพะหรือลูกวัว สำหรับใช้ในการเย็บเล่มและการเขียนหรือการวาดภาพ แผ่นหนังสัตว์นี้ถูกนำมาใช้ในยุโรปประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 2 นอกเหนือจากการใช้กระดาษปาปิรุสซึ่งนำเข้าจากอียิปต์ ที่มีราคาสูงขึ้นและเกิดการขาดแคลนอันมีสาเหตุมาจากต้นกกที่ใช้ทำกระดาษมีจำกัด แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการผลิตจะสูงกว่า แต่แผ่นหนังสัตว์มีความทนทานมากกว่ากระดาษปาปิรัส จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 12 การใช้แผ่นหนังสัตว์ในการเขียนจึงเริ่มมีน้อยลง เนื่องจากเริ่มมีการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์และทำให้กระดาษได้รับความนิยมในเวลาต่อมา เรื่องที่บันทึกไว้บนแผ่นหนังสัตว์ มีการเก็บเป็นม้วนเช่นเดียวกับกระดาษปาปิรุส เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] |
Pen name | นามปากกานามปากกา (Pen name) หมายถึง ชื่อที่นักเขียนหรือนักประพันธ์ใช้แทนชื่อจริงของตน โดยทั่วไปเป็นชื่อที่ยอมรับเพื่อใช้ปกปิดตัวของผู้เขียน นามปากกาสามารถเป็นชื่อของบุคคลหนึ่งที่มีจริงที่ผู้เขียนใช้เป็นนามปากกาของตน นามแฝงในนิยาย (เช่น Avi ใช้เป็นนามปากกาของ Eward Irving Wortis) นามแฝงที่ใช้ตามชื่อจริงของผู้เขียน (เช่น Dr.Seuss ใช้เป็นนามแฝงของ Theodor Seuss Geisel) หรือคำหรือวลีที่ไม่ได้เป็นชื่อบุคคล (เช่น Spy ใช้เป็นนามปากกาของ Sir Leslie Ward) นามปากกาเป็นชื่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อการเขียนยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างในปัจจุบันนี้ และถือว่าเป็นอาชีพที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง (เช่น George Eliot ใช้เป็นนามปากกาของ Mary Ann Evans Cross) นักเขียนบางคนเขียนโดยใช้นามปากกามากกว่าหนึ่งชื่อ และชื่อที่แตกต่างกันนี้ได้รับการยอมรับเมื่อผู้เขียนมีงานเขียนหลายแนวและใช้นามปากกาในงานเขียนแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป (เช่น ว. วินิจฉัยกุล, แก้วเก้า เป็นนามปากกาของ รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์) หรือเป็นการแนะนำตัวละครตัวใหม่ หรือตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่อง [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] |
procedural languages | ภาษาเชิงกระบวนความ, ภาษาโปรแกรมที่มีลักษณะการทำงานตามลำดับของคำสั่งจากคำสั่งแรกจนถึงคำสั่งสุดท้าย และบางคำสั่งอาจจะถูกทำซ้ำ หรือบางคำสั่งอาจจะไม่ถูกกระทำเลย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในโปรแกรม ภาษาในกลุ่มนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำความเข้าใจกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เนื่องจากช่ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
visual programming | การเขียนโปรแกรมแบบวิชวล, การเขียนโปรแกรมโดยเริ่มจากการออกแบบหน้าจอสำหรับติดต่อกับผู้ใช้ก่อน แล้วเขียนโปรแกรมสำหรับแต่ละส่วนบนหน้าจอ ทำให้จัดสร้างโปรแกรมได้ง่าย และรวดเร็ว [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Writing | การเขียน [TU Subject Heading] |
relational operator | ตัวดำเนินการเชิงสัมพันธ์ในการเขียนโปรแกรมการใช้สเปรดชีด และการใช้ฐานข้อมูลนั้นเราจำเป็นต้องอาศัยตัวดำเนินการสำหรับเปรียบเทียบค่าสองค่าว่าเท่ากันหรือเป็นอย่างเดียวกันหรือไม่ หรืออาจเปรียบเทียบค่าหนึ่งมากกว่าหรือน้อยกว่าอีกค่าหนึ่ง ในการเปรียบเทียบนี้เราจำเป้นจะต้องอาศัยตัวดำเนินการเชิงสัมพันธ์ ซึ่งอาจจะเขียนเป็นลักษณะได้ดังนี้ |
Suggestion box | กล่องรับความคิดเห็นห้องสมุดบางแห่งหาวิธีให้ผู้ใช้ห้องสมุดเสนอแนะวิธีการปรับปรุงการให้บริการหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายห้องสมุดและวิธีปฏิบัติของห้องสมุด โดยการเขียนเสนอแนะในแผ่นกระดาษและนำไปใส่ไว้ในกล่องรับความคิดเห็นที่ห้องสมุดจัดไว้ซึ่งอาจวางไว้ใกล้กับเคาน์เตอร์บริการยืม-คืนหนังสือ โต๊ะบริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า หรือประตูทางเข้าห้องสมุด นอกจากนั้นบนรายการออนไลน์ (Online catalog) และบนหน้าเว็บของห้องสมุดยังให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ สำหรับคำตอบของเจ้าหน้าที่และผู้บริหารห้องสมุดอาจจะติดไว้บนป้ายประกาศของห้องงสมุด หรือแสดงไว้ในส่วนพิเศษในหน้าโฮมเพจของห้องสมุด [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] |
tablet | เครื่องอ่านพิกัดอุปกรลักษณะเหมือนกับกระดานเขียนแบบใช้ร่วมกับเมาท์ หรือปากกา หรืออุปกรณ์ชี้ตำแหน่งแบบอื่นในการอ่านข้อมูลเข้าเครื่อง นิยมใช้กับการเขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์ วิธีการคือ จัดทำแผ่นกระดาษเป็นตารางขนาดเล็ก แต่ละตารางกำหนดให้ตรงกับคำสั่งต่างๆ ที่จะใช้ในโปรแกรมเขียนแบบ นำแผ่นกระดาษนี้มาตรึงไว้กับเครื่องอ่านพิกัดนี้ เมื่อต้องการเลือกใช้คำสั่งใดก็ให้ใช้ปากกาที่ต่อกับเครื่องนั้นกดลงบนตารางที่ตรงกับคำสั่งนั้น [คอมพิวเตอร์] |
transpose of a matrix | เมทริกซ์สลับเปลี่ยน, เมทริกซ์ที่ได้จากการเขียนเมทริกซ์ A ใหม่โดยนำสมาชิกในแถวที่ 1 ของ A ทั้งแถวมาเรียงกันเป็นหลักที่หนึ่งของเมทริกซ์ใหม่ และนำสมาชิกในแถวที่ 2 ของ A ทั้งแถวมาเรียงเป็นหลักที่สองของเมทริกซ์ใหม่และต่อ ๆ ไป เมทริกซ์ที่ได้เรียกว่าทรานสโพสของ A เขียนแทนด้วยสัญลัก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
---|---|
an identical item | (n.) เครื่องหมายละ ใช้เมื่อไม่ต้องการเขียนคำๆ นั้นซ้ำอีก Syn. an identity |
an identity | (n.) เครื่องหมายละ ใช้เมื่อไม่ต้องการเขียนคำๆ นั้นซ้ำอีก Syn. an identical item |
ditto | (n.) เครื่องหมายละ ใช้เมื่อไม่ต้องการเขียนคำๆ นั้นซ้ำอีก Syn. an identical item, an identity |
F2F | (abbr.) คำย่อของ face-to-face (ใช้ในการเขียน e-mail) |
salacious | (adj.) ลามก (การเขียน, รูปภาพ) See also: อุจาด, ไม่สุภาพ Syn. lustful, lecherous, wanton |
backhand | (n.) การเขียนคัดลายมือที่เอนไปทางซ้าย See also: การคัดลายมือที่หันไปทางซ้าย |
balderdash | (n.) การเขียนหรือพูดโง่ๆ (คำล้าสมัย) See also: การเขียนหรือพูดไร้สาระ Syn. bombast, gibberish |
clef | (n.) สัญลักษณ์ที่ใช้เริ่มในการเขียนโน้ต เพื่อบอกระดับเสียง (เช่น กุญแจซอล) |
dictation | (n.) การเขียนตามคำบอก |
dictionary making | (n.) การเขียนหรือทำพจนานุกรม |
draughtmanship | (n.) ความชำนาญในการเขียนแบบ See also: ความชำนาญในการวาดเขียน |
effusive | (adj.) ซึ่งพรั่งพรูออกมา (อารมณ์, คำพูด, การเขียน) Syn. gushy, unrestrained |
engross | (vt.) คัดลอกเอกสารโดยการเขียนด้วยตัวหนังสือตัวใหญ่และชัดเจน |
gimme | (n.) วิธีการเขียนวลี give me ในภาษาพูด |
graphy | (suf.) เกี่ยวกับรูปแบบหรือกระบวนการทางศิลปะการเขียน การวาด การนำเสนอหรืออื่นๆ |
hand | (n.) ลายมือ (การเขียนหนังสือ) |
impressionism | (n.) ทฤษฏีการเขียนภาพจากความประทับใจ |
journalese | (n.) รูปแบบการเขียนของนักหนังสือพิมพ์ |
lexicography | (n.) การเขียนหรือทำพจนานุกรม Syn. dictionary making |
madam | (n.) คุณผู้หญิง (คำสุภาพใช้ขึ้นต้นในการเขียนจดหมาย) Syn. Mrs, madam, dame, mam |
ตัวอย่างประโยค จาก Meemodel ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ | |
---|---|
How much time does it take to write a book? | ต้องใช้เวลามากเท่าไหร่ในการเขียนหนังสือสักเล่ม? |
ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles | |
---|---|
Father McKenzie, writing the words of a sermon that no-one will hear | พ่อ มเคนซี, การเขียนคำ ของพระธรรมเทศนาที่ไม่มีใครจะได้ ยิน |
How long will it take you to program Hal for the launch? | นานแค่ไหนก็จะนำคุณ ในการเขียนโปรแกรม แฮล สำหรับการเปิดตัว? |
We know how sensitive he is to mission objectives and now you're telling me to program him for the destruction of the Discovery as well as his own destruction. | เรารู้วิธีการที่สำคัญเขาเป็นคนที่ จะปฏิบัติภารกิจ วัตถุประสงค์และตอนนี้คุณ กำลังบอกฉัน ในการเขียนโปรแกรมเขา สำหรับการทำลายของ |
Rewrites are free, of course. I'm just as concerned about making it perfect as you are. | แน่นอน การเขียนใหม่ฟรี ฉันแค่เป็นห่วง เรื่องการทำให้มันสมบูรณ์อย่างที่เธอเป็น |
I don't know if it's his style of writing... or his use of description or whatever, but... | ไม่รู้สิ สไตล์การเขียนของเขา จะใช้การพรรณนาหรือบรรยาย จะอะไรก็เถอะ... |
You dream of setting fire to God knows what, of rising above your times like a dazzling cloud, leaving everyone terrified and admiring. | ความฝันของเธอ คือการเขียนงานเกี่ยวกับความมืดหม่น เหมือนท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆหมอก แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน |
Or it could be, since the primary writing medium of the time was iron gall ink, the "pen" is... just a pen. | หรืออาจจะเป็น, การเขียนของยุคกลางใช้เหล็กจิ้มหมึกเขียน, "ปากกา"... . |
This special night will be a tribute to your lifetime screenwriting achievement and contribution to the profession. | "มันจะมีชื่อว่า 'ค่ำคืนกับอาร์เธอร์ แอ็บบ็อตต์' "คืนพิเศษนี้จะเป็นการสดุดี ให้แด่ความสำเร็จตลอดชีวิต" "ในการเขียนบทของคุณ และการมีส่วนร่วมอย่างสำคัญ" |
I saw that they were giving these courses on writing at the New School so I signed up. | ฉันเห็นพวกเจ้าจัดบทเรียนพวกนี้ เกียวกับการเขียนที่ นิว สคูล ดังนั้น ฉันจึงสมัครเรียน |
In the ancient times, before humans invented writing... they searched for the stone that resembled their feelings, and gave it to another person. | สมัยก่อน ตอนที่คนยังไม่รู้จักการเขียน เขาจะหาก้อนหินมาแทนความรู้สึกของเขา |
Put one here somewhere. The words have to be perfect or it won't work. | มันอยู่ตรงนี้อันนึง สำนวนการเขียน ต้องใช่ด้วยนะ ไม่งั้นไม่ได้หรอก |
I got 20 minutes to file this column, and I gotta- | ผมมีเวลาแค่ 20 นาที ในการเขียนคอลัมน์ แล้วผมต้อง.. |
I mean, It's not like I wrote a book on fatherhood. I'm trying whole my life to get it right, i'm still screwing up. | ฉันหมายถึง มันไม่ใช่การเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับการเป็นพ่อ ฉันพยายามที่จะทำให้มันถูกด้อง และฉันก็ยังทำมันพลาด |
The assignment is to write a Spanish conversation using those five phrases. | ถ้างั้น งานที่เราได้รับมอบหมายก็คือ การเขียนบทสนทนาภาษาสเปนโดยใช้ทั้ง 5 โวหารนี้ |
Yeah, you know, speaking of Tisch, um, tell me if I'm crazy, but I was thinking of applying to the, uh, playwriting program for next year. | พูดถึง ทริชแล้ว บอกฉันสิ ว่าฉันเป็นบ้า แต่ฉันคิดว่า จะ สมัคร การเขียนละคร สำหรับปีหน้า |
Anybody hear me? | - หนังสือเกี่ยวกับการเขียน Galilei. |
His best chance at improving is with the written essay at the end of the year. | โอกาสที่ดีที่สุดของเขาที่จะปรับปรุง คือการเขียนเรียงความ ตอนสิ้นปี |
College's Writing, good, psychology, math lab... | ดูสิว่ามีอะไรบ้าง: วิชาการเขียน,ดี, จิตวิทนา,ปฏิบัติการคณิตศาสตร์... |
I wouldn't waste your time writing an expose on your Japanese friend if that's what you're doing. | ผมจะช่วยไม่ให้คุณเสียเวลาเปล่า ถ้าการเขียนเปิดโปงเพื่อนชาวญี่ปุ่น คือสิ่งที่คุณคิดจะทำละก็ เขาไม่เคยแตะต้องฝิ่นเลย |
I'd like to submit writing samples which confirm that the defendant is left-handed. | ฉันอยากที่จะนำเสนอ ตัวอย่างการเขียนลายมือ ที่ถูกยืนยันแล้วว่า จำเลยเป็นคนถนัดซ้าย |
25% of your grade can be earned right now simply by writing your name on the cover of the blue book. | เป็น 25 % ของคะแนนสะสม นี่เป็นตัวอย่าง การเขียนชือของเธอ ลงบนปกข้อสอบสีฟ้านี่ |
Well, I've actually been suffering from writer's block lately, so a walk might do just the trick. | ยังไงซะ ฉันอดทนมานาน จากการเขียนบล๊อกของฉัน ไม่แน่การเดินอาจทำให้ผ่อนคลาย |
All you have been doing for the last few months is writing and working with Beckett. | สิ่งที่ลูกทำอยู่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา คือการเขียน และทำงานกับเบ็คเก็ท |
I'm thinking we should take the first step in our new cupcake business by writing "Max's Homemade Cupcakes" | ฉันคิดว่าเราควรจะ เริ่มก้าวแรก ของธุรกิจคัพเค้ด ด้วยการเขียนว่า 'โฮมเมดคัพเค้กฝีมือแม็กซ์' |
You know your writing helps alleviate your suicidal self-loathing and shit. | รู้มั้ยว่า การเขียนช่วยบรรเทาการอยากฆ่าตัวตาย เนื่องจากรังเกียจตัวเองได้นะ |
My work here is done... and documented. | งานของฉันที่นี่เสร็จแล้ว และการเขียนลงบนเวป ขอบคุณ |
You know, it takes longer to adopt a baby than it took to write West Side story? | เธอรู้มั้ยว่าการรับเด็กมาเลี้ยง มันใช้เวลานานกว่า การเขียนบท West Side Story ซะอีก |
Now that she's revealed what's in her heart, guess these diary's days are dead, along with her happily ever after. | ตอนนี้เธอได้เผยความในใจจนหมด สงสัยวันคืนแห่งการเขียนไดอารี่จะตกยุค ไปพร้อมๆกับการอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป |
I need your photographic memory and your passion for social upheaval to help me write the book about the Upper East Side... the book I should've written from the beginning. | ผมต้องการความทรงจำเหมือนภาพถ่ายของคุณกับความหลงไหลในการสร้างความวุ่นวายในสังคม เพื่อช่วยผมในการเขียนหนังสือเกี่ยวกับ อัปเปอร์ อีสต์ ไซด์ หนังสือที่ผมควรจะเขียนมาตั้งแต่แรก |
I'm not claiming that what I write is actually true. | โอเค คุณกำลังพูดถึง การเขียนหนังสือชุดนิกกี้ พีค ใช่ไหม |
Sorry. I'm taking a mail-in creative writing course. | ขอโทษค่ะ ฉันกำลังเรียนหลักสูตรการเขียน แบบสร้างสรรค์ทางไปรษณีย์ |
For a man with a penchant for writing letters, you would think that Roger would have left a suicide note. | สำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบ การเขียนจดหมายมาก นายควรคิดได้ว่า โรเจอร์ ควรทิ้งจดหมายลาตายไว้ |
If Alicia was writing an article about campaign contributions, we need to look into both candidates' finances. | ถ้าอลิเชีย ต้องการเขียนบทความเกี่ยวกับ การรนณรงค์ เลือกตั้ง เราควรจะดู เรื่องการเงิน ของผู้สมัครทั้งคู่นะ |
I need your passion for social upheaval to help me write the book about the Upper East Side. | ผมต้องการความสามารถของคุณในการสร้างความวุ่นวายให้กับสังคม เพื่อช่วยฉันในการเขียนหนังสือ เกี่ยวกับ Upper East Side |
So I needed a break, and I figured writing books might help give me some peace of mind. | ดังนั้นผมจึงต้องการพัก และผมคิดได้ว่าการเขียนหนังสือ อาจช่วยผมให้พบความสงบในจิตใจ |
You know, Dr. Thredson, let me remind you, your job here is to write a recommendation to the court regarding the sanity of one patient. | คุณหมอเธรดซัน ดิฉันขอเตือนความจำคุณหน่อยนะ งานของคุณที่นี่ คือ การเขียนจดหมายรับรอง ให้ศาลเกี่ยวกับสุขภาพจิตของผู้ป่วยคนหนึ่ง |
There's an interesting op-ed piece about the deadlock in the House Appropriations Committee. | มีเรื่องน่าสนใจ ส่วนบรรณาธิการเขียนเกี่ยวกับ เรื่องความล้มเหลวในการ แก้ปัญหาของกรรมการจัดสรรบ้าน |
I need your passion for social upheaval to help me write the book about the Upper East Side. | ผมต้องการความสามารถของคุณ ในการสร้างความวุ่นวายให้กับสังคม เพื่อช่วยฉันในการเขียนหนังสือ เกี่ยวกับ Upper East Side |
Ah, Mr. Blake, one cannot possess every talent, the talent to write beautiful words, and the talent to light fires. | อาเบลนายหนึ่งไม่สามารถ มีความสามารถทุกคน ความสามารถในการเขียนคำที่สวยงาม และความสามารถที่จะจุดไฟ. |
In fact, the only thing that's pissing me off now is that I have to re-write this entire fucking book. | ในความเป็นจริงสิ่งเดียว ที่ pissing ฉันปิดตอนน คือว่าผมมีอีกครั้งการเขียน หนังสือเล่มนี้ทั้งร่วมเพศ. |