English-Thai: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
---|---|
วว | (n.) Ministry of Science, Technology and Environment Syn. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม |
English-Thai: HOPE Dictionary | |
---|---|
acarology | (แอคคาร็อล' โลจี) n. ชีววิทยาที่เกี่ยวกับตัวเห็บหรือหมัด -acarologist n. |
aglitter | (อะกลิท' เทอะ) adj. ส่องแสงวูบวาบ, วาววับ, Syn. glittering, sparking) |
aglow | (อะโกล') adj. สว่าง, วาววับ, เปล่งปลั่ง |
agueweed | (เอ' กิววีด) n. พืชจำพวก Eupatorium ในอเมริกา gentian (Gentiana quinquefolia) |
allen's law | เป็นภาวะที่เกิดในผู้ป่วยโรคเบาหวานซึ่งมีทฤษฎีนี้กล่าวว่า มีการรับคาร์โบไฮเดรตมากแต่มีการใช้ยิ่งน้อยลง |
anovulant | (แอนนอพ' ววลันท) n, ยาต้านการตกไข่ |
autogravure | (ออโทกระววว'เออะ) n. วิธีการแกะสลักบล๊อกภาพถ่าย |
biologic | (ไบโอลอจ'จิค,-เคิล) adj. เกี่ยวกับชีววิทยา n. ผลิตผลทางชีวภาพ (เช่น วัคซีน เซรุ่ม) |
biological | (ไบโอลอจ'จิค,-เคิล) adj. เกี่ยวกับชีววิทยา n. ผลิตผลทางชีวภาพ (เช่น วัคซีน เซรุ่ม) |
biologist | (ไบออล'ละจิสทฺ) n. นักชีววิทยา |
biology | (ไบออล'โลจี) n. ชีววิทยา |
blaze | (เบลซ) {blazed,blazing,blazes} n. ไฟที่ลุกโชติช่วง,ความสว่างโชติช่วง,เปลวไฟ,ลำแสงเจิดจ้า,ความแวววาว,การระเบิดออก,จุดขาวด่างบนใบหน้าสัตว์,ร่องรอยตามต้นไม้ vi. สว่างช่วงโชติ,ลุกโพลง,ลุกไหม้เป็นเปลวไฟ,เปล่งแสงเจิดจ้า,ประทุ,ระเบิด,มีอารมณ์รุนแรง,ยิงอย่างไม่หย |
brilliance | (บริล'เยินซฺ) n. ความสุกใสมาก,ความฉลาดมาก,ความหลักแหลมมาก,ความโชติช่วง,ความแวววาว, Syn. luster,radiance,genius ###A. dullness |
brilliant | (บริล'เยินทฺ) adj. สุกใส,โชติช่วง,ฉลาดมาก,หลักแหลมมาก,แวววาว n. เพชรนิลจินดา, See also: brilliantness n. ดูbrilliant, Syn. glittering |
burnish | (เบอร์'นิ?) {burnished,burnishing,burnishes} vt. ขัดเงา,ขัดให้วาว vi. เป็นวาว. n. ความเป็นวาว,ความแวววาว., See also: burnisher n. ดูburnish burnishment n. ดูburnish |
chatoyant | adj. แวววับ |
coherer | (โคเฮีย'เรอะ) n. เครื่องมือวัดคลื่น,ตัววัดคลื่น |
convict | (คอน'วิคทฺ) {convicted,convicting,convicts} n. ผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด,นักโทษ vt. (คัน วิคทฺ') พิสูจน์แล้วว่ากระทำผิด,ตัดสินว่าได้กระทำผิด,ทำให้รู้ว่ามีความผิดหรือมีโทษ, See also: convictable adj. ดู convictible adj. convictive adj. ดูconv |
coruscant | (คะรัส'คันท) adj. แวววับ,เป็นประกายแวววับ,สุกใส |
coruscate | (คอ'รัสเคท) vi. แวววับ,เป็นประกายแวววับ, Syn. sparkle |
day-to-day | adj. วันแล้ววันเล่า,ประจำวัน |
diurnal | (ไดเออร์'เนิล) adj. เกี่ยวกับกลางวัน,แต่ละวัน,ประจำวัน,ซึ่งออกหากินในเวลากลางวัน,ชั่ววันหนึ่ง. n. หนังสือรายวัน,อนุทินรายวัน,หนังสือพิมพ์รายวัน., See also: diurnalness n., Syn. daily |
divine | (ดิไววนฺ') adj. เกี่ยวกับพระเจ้า,ศักดิ์สิทธิ์,เคร่งศาสนา,เกี่ยวกับเทววิทยาดีเลิศ,ยอดเยี่ยม,เหนือมนุษย์,เป็นพรสวรรค์n. นักศาสนศาสตร์,ผู้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนา,พระ, See also: the Divine พระเจ้า,เทพเจ้า,จิตวิญญาณ vi.,vt. ทำนาย,คาดการณ์,พยากรณ์. divin |
equinox | (อี'ควะนอคซฺ) n. เวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรทำให้มีกลางวันเท่ากับกลางคืน/เกิดขึ้นในราววันที่ 21 มีนาคม (vernal equinox) กับวันที่22กันยายน (autumnal equinox) |
flare | (แฟลร์) {flared,flaring,flares} vi.,vt. (การ) ลุกไหม้เป็นเพลิงโชติช่วงอย่างกระทันหัน,ส่องแสงสว่างแวววับ,เดือดดาล,เกิดอารมณ์ขึ้นอย่างกะทันหัน,กางออก,บานออก,แผ่ออก,ผายออก,แสดงออกอย่างโอ้อวด,ให้สัญญาณด้วยแสงสว่างที่วอบแวบ., Syn. burn |
flaring | (แฟล'ริง) adj. ซึ่งลุกโชติช่วง,สว่างแวววับ,หรูหรา,ซึ่งค่อย ๆ บานออก., Syn. blazing |
glaring | (แกล'ริง) adj. เจิดจ้า,บาดตา,แสงวาววับ,ซึ่งจ้องเขม็ง,ครึกโครม,ชัด ๆ ,โต้ง ๆ, See also: glaringness n. |
glist | (กลิสท') n. แสงแวววัย,แสงระยิบระยับ,การสะท้อนแสง. |
glisten | (กลิส'เซิน) vi. ระยิบระยับ,ส่องแสงแวววับ,สะท้อนแสง., See also: glistenly adv. |
flatbed plotter | พล็อตเตอร์แบบระนาบหมายถึงเครื่องวาดที่สามารถวาดบนแผ่นกระดาษที่วางแบน ๆ เรียบ ๆ ได้ ประกอบด้วยก้านซึ่งเคลื่อนที่ไปมาได้ มีหัววาดซึ่งอาจเป็นปากกา ดินสอ หรืออุปกรณืพิเศษอื่น ๆ ติดอยู่ ขนาดของกระดาษที่ใช้มีต่างกันตั้งแต่ 28x43 ซม. จนถึง 2.44x3.66 เมตร อัตราความเร็วของการวาดมีตั้งแต่ 15 ถึง 100 ซม. ต่อวินาที นิยมนำมาใช้วาดแผนที่ กราฟ หรือการแสดงภูมิอากาศ |
glister | (กลิส'เทอะ) vi. ส่องแสงแวววับ,ระยิบระยับ., See also: glisteringly adv., Syn. glitter |
glitter | (กลิท'เทอะ) n.,vi. (สะท้อน,ส่อง) แสงแวววับ,แสงระยิบระยับ,สิ่งที่เปล่งแสงแวววับ., See also: glitteringly adv. glittery adj., Syn. gleam,glint |
gloss | (กลอส) n. ความแวววาว,ความเป็นเงามัน,ภาพลวงตา vt. เคลือบเงา,ขัดเกลา, See also: glosser n., Syn. sheen,shine |
hydraulics | (ไฮดรอ'ลิคช) n. ธาราศาสตร์,วิชาที่เกี่ยวกับกฎของของเหลวว่าด้วยกำลัง และการเคลื่อนไหว |
khz | (กิโลเฮิร์ทซ์) ย่อมาจาก Kilohertz มีค่าเท่ากับ 1,000 เฮิร์ทซ์ เป็นหน่วยวัดจำนวนรอบต่อวินาที 1 กิโลเฮิร์ทซ์ จึงเท่ากับหนึ่งพันรอบต่อวินาที ใช้กับสัญญาณนาฬิกา ตัววัดความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ |
lambency | (แลม'เบินซี) n. ความแวววาบของแสงหรือเปลวไฟหรือดวงตา,สิ่งที่แวววับ,ความระยิบระยับ,สิ่งที่ระยิบระยับ |
lambent | (แลม'เบินทฺ) adj. แวววาบ,ระยิบระยับ,หลักแหลม,เปล่งแสงสว่างอย่างนิ่มนวล, Syn. brilliant,radiant |
laminar flow | กระแสชั้น (อนุภาคของของเหลววิ่งเป็นชั้นที่แยกจากกัน) |
lighten | (ไล'เทิน) vi.,vt. (ทำให้) เบาขึ้น,จางขึ้น,สว่างขึ้น,โล่งอก,เบิกบาน,ลดลง,ลดหย่อน,เบาขึ้น,ง่ายขึ้น,แวววับ,สว่าง,รู้,แวววับ, See also: lightener n. ดูlighten, Syn. brighten |
lustrous | (ลัส'ทรัส) adj. เป็นมันเงา,เป็นมันระยับ,แวววาว,รุ่งโรจน์,ดีเลิศ,วิเศษ., See also: lustrousness n. ดูlustrous, Syn. luminous |
English-Thai: Nontri Dictionary | |
---|---|
biological | (adj) เกี่ยวกับชีววิทยา,ทางชีววิทยา |
biologist | (n) นักชีววิทยา |
biology | (n) ชีววิทยา |
divinity | (n) ศาสนศาสตร์,พระเจ้า,เทพเจ้า,เทววิทยา,ความศักดิ์สิทธิ์ |
flare | (n) เปลวไฟ,แสงแวววาว,การแผ่ออก |
glisten | (n) แสงระยิบ,แสงวับ,แสงแวววาว,แสงระยิบระยับ |
glitter | (n) แสงประกาย,แสงแวววาว,แสงระยิบระยับ |
gloss | (n) ความเป็นเงา,ความเป็นมัน,ความแวววาว |
JACK-O'-jack-o'-lantern | (n) ผีกระสือ,แสงแวววาว |
lambent | (adj) ผ่านๆไป,แลบ,เรืองแสง,แวววาว,ระยิบระยับ |
lustrous | (adj) เป็นเงา,มัน,รุ่งโรจน์,แวววาว |
zoology | (n) สัตววิทยา |
outshine | (vi) เด่นกว่า,แวววาวกว่า,มีแสงมากกว่า,สว่างไสวกว่า |
phosphorescent | (adj) เรืองแสง,วาวแสง,แวววาว |
scintillate | (vi) ส่องแสงระยิบระยับ,เป็นประกาย,ส่องแสงแวววาว |
scintillation | (n) แสงแวววาว,ประกาย,แสงระยิบระยับ |
sheen | (n) ความสว่างไสว,ความแวววาว,ความเปล่งปลั่ง,ความรุ่งโรจน์ |
shimmer | (n) แสงระยิบระยับ,แสงแวววาว |
shine | (n) ความสุกใส,แสงสว่าง,ความเปล่งปลั่ง,ความแวววาว |
shining | (adj) แวววาว,ส่องแสง,โชติช่วง,เปล่งเปลั่ง,ระยิบระยับ |
theology | (n) ศาสนศาสตร์,วิชาเปรียญ,เทววิทยา |
zoological | (adj) เกี่ยวกับสัตววิทยา |
zoologist | (n) นักสัตววิทยา |
อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน | |
---|---|
architrave | ๑. หน้ากระดานทับหลัง๒. บัวปิดแนววงกบ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
bioassay | การสอบปริมาณโดยชีววิธี [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
biologist | นักชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
biology | ชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
blank | ๑. หน้าว่าง๒. ตัวว่าง๓. พื้นที่ว่าง๔. ว่าง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
circum-Pacific belt | แนววงรอบแปซิฟิก [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
metric | ตัววัด [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
microbiologist | นักจุลชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
microbiology | จุลชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
ontology | ภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
science fiction | บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] |
theology | เทววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
trajectory | แนววิถี [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
V-engine; V-type engine | เครื่องยนต์แบบรูปตัววี [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] |
V-shaped valley | หุบเขารูปตัววี [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
y network | ข่ายสายรูปตัววาย [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
zoography | สัตววรรณนา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช. | |
---|---|
Abrasion | การสึกกร่อน การกร่อนของผิววัสดุอันเกิดจากการเสียดสี เช่น ผนังหรือพื้นเตาเผาที่สึกกร่อนเนื่องจากการเคลื่อนย้ายขยะ ดู Erosion และ Corrosion [สิ่งแวดล้อม] |
ABS | เอบีเอส alkyl benzene sulfonate (เอบีเอส ) หมายถึง สารที่ใช้ในการผลิตสารซักฟอก ย่อยสลายในแบบชีววิทยาได้ยาก [สิ่งแวดล้อม] |
Analyzers | ตัววิเคราะห์ [การแพทย์] |
Antagonism | ปัจจัยเสริมผลกระทบน้อย สถานการณ์ซึ่งเมื่อมีปัจจัย 2 ปัจจัยหรือมากกว่าก่อให้เกิดผลกระทบ น้อยกว่าปัจจัยเดียวโดดๆ ในการศึกษาผลกระทบที่มีต่อสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกว่าชีววิเคราะห์ (bioassay) นั้นคำว่า antagonism อาจหมายถึงสถานการณ์ซึ่งการตอบสนองบางอย่างเกิดขึ้นจากการได้รับ ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งใน 2 ปัจจัย แต่ไม่ได้รับพร้อมกัน [สิ่งแวดล้อม] |
Biologic Agents | สิ่งที่ทำให้เกิดโรคทางชีววิทยา [การแพทย์] |
Biologist | นักชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Biology | ชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Cat's Eyes, Amaurotic | รูม่านตาเป็นสีขาววาวๆคล้ายตาแมว [การแพทย์] |
Confounders | ตัววัด [การแพทย์] |
Contamination | การเปื้อนสารกัมมันตรังสี, สารกัมมันตรังสีทั้งในรูปของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ อากาศ หรือเปรอะเปื้อนที่พื้นผิววัสดุ อุปกรณ์ ร่างกาย และหรือบริเวณที่ต้องการใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ [นิวเคลียร์] |
Ecological assessment (Biology) | การประเมินทางนิเวศ (ชีววิทยา) [TU Subject Heading] |
Estuary | ชวากทะเล หรือบริเวณปากแม่น้ำ บริเวณส่วนล่างของปากแม่น้ำที่มีความกว้าง มากกว่าปกติจนมีลักษณะ คล้ายอ่าว เป็นบริเวณที่น้ำจืดกับน้ำทะเลมาผสมกันเป็นน้ำกร่อยซึ่งมี ความเค็มอยู่ระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม กระแสน้ำขึ้นลงมีอิทธิพลสำคัญ ต่อลักษณะทางกายภาพและชีววิทยา บริเวณปากแม่น้ำซึ่งน้ำทะเลเข้าไปผสมกับน้ำจืด เป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีอัตราการผลิต และผลผลิตสูง บริเวณปากแม่น้ำในส่วนต่าง ๆ ของโลก อาจมีผลผลิตแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิอากาศ ลักษณะทางอุทกวิทยา และลักษณะธรณีสัณฐานของชายฝั่งทะเล [สิ่งแวดล้อม] |
Fish | ปลา ตามพจนานุกรมไทยได้ให้ความหมายว่า ปลาคือสัตว์ที่อยู่ในน้ำ มีกระดูกสันหลัง หายใจทางเหงือก เคลื่อนไหวด้วยครีบ บางชนิดมีเกล็ด บางชนิดไม่มีเกล็ด แต่ในทางด้านชีววิทยานั้น ลักษณะของปลาจะเป็น สัตว์เลือดเย็นที่หายใจด้วยเหงือก มีกระดูกสันหลัง อาศัยอยู่ในน้ำเท่านั้น ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ด เมือกหรือแผ่นกระดูก เคลื่อนไหวไปมาโดยอาศัยครีบและกล้ามเนื้อลำตัว มีหัวใจสองห้อง มีขากรรไกรครบ มีการผสมพันธุ์กันภายนอกร่างกาย และมีลำตัวซีกซ้ายและขวาเท่ากัน จัดเป็นเนคตอนชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มปลาตามที่อยู่อาศัยได้ 2 กลุ่ม คือ Pelagic Fishes และ Demersal Fishes [สิ่งแวดล้อม] |
frictional force [friction] | แรงเสียดทาน, แรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุสองชิ้น เป็นแรงซึ่งผิววัตถุหนึ่งต้านการเคลื่อนที่ของผิววัตถุอีกผิวหนึ่ง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Hooke's law | กฎของฮุก, กฎที่กล่าวว่า เมื่อมีแรงดึงหรือกดวัสดุ ความยาวที่ยืดออกหรือหดเข้าของวัสดุจะเป็นสัดส่วนกับแรง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Le Chatelier's principle | หลักของเลอชาเตอลิเอ, หลักการซึ่งกล่าวว่า เมื่อรบกวนระบบที่อยู่ในภาวะสมดุล ระบบจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่จะลดผลของการรบกวนนั้นโดยการเข้าสู่ภาวะสมดุลใหม่ การรบกวนภาวะสมดุลได้แก่ การเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสาร อุณหภูมิหรือความดัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Algorithmic language | ภาษาอัลกอลภาษาคอมพิวเตอร์สำคัญภาษาหนึ่งที่ได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2500 ระหว่างการประชุมวิชาการที่มีนักคอมพิวเตอร์จากประเทศเดนมาร์ก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮอลแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกามาประชุมกัน แม้ว่าภาษานี้จะไม่ประสบความสำเร็จในทางการค้าคือมีใช้เฉพาะในมหาวิทยาลัย และงานวิจัยทางยุโรปเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ต้องกล่าวว่เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เกิดภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาปาสกาล ภาษาซี และภาษาเอดา [คอมพิวเตอร์] |
Innovation | นวัตกรรม, นวัตกรรม หรือนวกรรม หมายถึง วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่และเหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลองพัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดย มีหลักการที่สำคัญอยู่ 3 ประการ ที่จัดเป็นหลักพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาหรือไม่ คือ สิ่งนั้นควรเป็นสิ่งที่ค้นพบ หรือประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ หรือการปรับปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่เหมาะสมกับกาลสมัยมาใช้ในวงการศึกษา เพื่อให้ระบบการศึกษาก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพได้ผ่านการทดลอง การปรับปรุงพัฒนา จนเป็นที่ยอมรับกับอย่างแพร่หลายได้มีการนำมาปฏิบัติจริงในวงการนั้น [เทคโนโลยีการศึกษา] |
Luster | ความมันแวววาว, ความมันวาว [การแพทย์] |
Microbiological Assays | การวิเคราะห์ทางจุลชีววิทยา, การวิเคราะห์ทางจุลชีววิทยา [การแพทย์] |
Microbiological techniques | เทคนิคทางจุลชีววิทยา [TU Subject Heading] |
Microbiology | จุลชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Mlientha suavis | ผักหวาน (เมเลียนทา ซัววิส) [TU Subject Heading] |
Modernism (Christian theology) | แนวคิดสมัยใหม่ (เทววิทยาคริสเตียน) [TU Subject Heading] |
Muscovite | มัสโคไวต์ แหล่ง - พบที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และในแหล่งหินแกรนิต เปกมาไทต์ทั่วประเทศ เป็นตัวแร่สำคัญที่พบเสมอในทรายทั่วไป ประโยชน์ - ใช้ทำเป็นฉนวนไฟฟ้า ทำเป็นวัตถุโปร่งใสในการทำตะเกียงและเตา เศษของไมกาที่เหลือจากการทำฉนวนจะถูกนำมาใช้ทำกระดาษปิดผนัง ทำให้ผนังมีความแวววาวขึ้น ใช้ผสมกับน้ำมันทำเป็นตัวหล่อลื่น เป็นตัวนำความร้อนที่เลว จึงใช้ทำวัตถุทนไฟ [สิ่งแวดล้อม] |
Ontology | ภววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Passive Artificial Leg | ขาเทียมแบบไม่ใช้อุปกรณ์เพิ่มกำลัง, ขาเทียมที่มีการปรับอัตราความหน่วงในการเดิน โดยใช้ประโยชน์จาก สปริง และแดมเปอร์ (damper) ไม่มีตัววัดค่าและและคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน [Assistive Technology] |
Probe | หัววัด, โพรบ [สิ่งแวดล้อม] |
Proportional counter | เครื่องนับรังสีแบบสัดส่วน, เครื่องวัดรังสีที่ใช้หลักการนับจำนวนสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวนของไอออนที่เกิดขึ้นเมื่อมีรังสีชนิดก่อไอออนผ่านเข้าไปในหัววัดชนิดบรรจุแก๊ส [นิวเคลียร์] |
Protozoology | โปรโตซัววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Relative Biological Effect | ผลทางชีววิทยาสัมพัทธ์, การเปรียบเทียบปริมาณรังสีของรังสีชนิดหนึ่งกับรังสีเอกซ์ 250 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ หรือรังสีแกมมาจากต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์-60 ที่ก่อให้เกิดผลทางชีววิทยาเหมือนกัน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน |
Sludge | กากตะกอนของแข็งที่แยกออกจากน้ำ หรือน้ำเสีย และจมสะสมตัวอยู่เบื้องล่าง ; ของแข็งซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการบำบัดโดยวิธีทางเคมีและตกตะกอน ; กลุ่มจุลชีพในระบบบำบัดน้ำเสียแบบชีววิทยา [สิ่งแวดล้อม] |
Radioecology | นิเวศวิทยารังสี, การศึกษาผลกระทบของสารกัมมันตรังสีที่มีในธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นต่อระบบนิเวศ สารกัมมันตรังสีอาจมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและสมบัติทางเคมีของตัวมันเอง และมีวัฏจักรการเคลื่อนย้ายในระบบนิเวศภายในกลุ่มหรือระหว่างกลุ่มของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต (หิน ดิน น้ำ และอากาศ) ในสภาวะแวดล้อมต่างๆ กัน เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิต ส่งผลกระทบทางชีววิทยาและการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ |
Soft Detergent | สารซักฟอกชนิดอ่อน สารซักฟอกที่ย่อยง่ายทางชีววิทยา [สิ่งแวดล้อม] |
Stream ecology | นิเววิทยาลำน้ำ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Surface (Technology) | พื้นผิววัสดุ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Theology | เทววิทยา [TU Subject Heading] |
time sharing system | ระบบแบ่งเวลาระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำงานให้ผู้ใช้ได้หลายคนพร้อมกัน โดยการแบ่งเวลาทำงานให้ผู้ใช้แต่ละคน คนละเล็กคนละน้อยโดยผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่าคอมพิวเตอร์กำลังดำเนินการให้กับผู้ใช้คนอื่นอยู่ [คอมพิวเตอร์] |
uniform circular motion | การเคลื่อนที่แบบวงกลมสม่ำเสมอ, การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนววงกลมหรือส่วนของวงกลมด้วยขนาดของความเร็วคงตัว แต่ทิศทางของความเร็วเปลี่ยนตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดแรงสู่ศูนย์กลาง โดยมีทิศทางสู่ศูนย์กลางของวงกลมและตั้งฉากกับความเร็วขณะหนึ่ง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Wetland | พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ซึ่งดินมีน้ำขังอิ่มตัวไม่ลึกนักและมี พืชน้ำขึ้นงอกงาม ระบบนิเวศวิทยา เป็นไปตามธรรมชาติ มีความสามารถในการบำบัดน้ำเสียแบบชีววิทยา โดยอาศัยพืช สัตว์ จุลินทรีย์ที่อาศัยในพื้นที่ รวมทั้งดินเป็นตัวบำบัด [สิ่งแวดล้อม] |
Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
---|---|
biological | (adj.) ทางชีววิทยา Syn. biotic, organic, natural Ops. artificial, inorganic, unnatural. |
biologist | (n.) นักชีววิทยา |
biology | (n.) ชีววิทยา Syn. naturalist |
biophysics | (n.) ศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้วิธีการทางฟิสิกส์ศึกษาชีววิทยา |
biotic | (adj.) ทางชีววิทยา Syn. organic, natural Ops. artificial, inorganic, unnatural. |
caret | (n.) สัญลักษณ์รูปตัววีคว่ำที่ใช้ในการตรวจพิสูจน์อักษร (เพื่อแสดงว่ามีส่วนที่ต้องเติมเข้าไป) |
catapult | (n.) หนังสติ๊กรูปตัววี See also: ไม้หนังสติ๊กรูปตัววาย (Y) Syn. slingshot, sling |
chevron | (n.) เครื่องหมายรูปตัววี (V) |
childproof | (adj.) ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก |
day after day | (adv.) วันแล้ววันเล่า See also: หลายวันติดต่อกัน |
decompose | (vt.) ทำให้เน่าเปื่อย (ทางชีววิทยา) See also: ทำให้ผุพัง, ทำให้เน่าสลาย Syn. decay, molder, putrefy, rot, spoil |
ensiform | (adj.) ซึ่งเรียวยาวและปลายแหลมคล้ายดาบ (ทางชีววิทยา) Syn. swordlike |
entomology | (n.) สาขาวิชาหนึ่งทางสัตววิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับแมลง See also: กีฏวิทยา |
epergne | (n.) ภาชนะที่สวยงามและมีขนาดใหญ่ที่ใช้ใส่ผลไม้หรือดอกไม้แล้ววางไว้กลางโต๊ะ |
fission | (n.) การแบ่งเซลล์ (ทางชีววิทยา) See also: การแตกตัวของเซลล์, การแบ่งตัวของเซลล |
Gemini | (n.) ดาววัวคู่ See also: ราศีเมถุน |
genetic | (adj.) เกี่ยวกับน้ำอสุจิ (ทางชีววิทยา) See also: เกี่ยวกับเมล็ด Syn. spermatic |
germ cell | (n.) เซลล์สืบพันธุ์ (ทางชีววิทยา) |
gig | (n.) อาชีพชั่วครวว See also: งานชั่วคราว Syn. temporary job |
glitter | (n.) แสงแวววาว See also: แสงระยิบระยับ |
ตัวอย่างประโยค จาก Meemodel ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ | |
---|---|
You have known from a long time what to do | คุณทราบมาตั้งนานแล้วว่าควรจะทำอะไร |
He no longer remembers who he is | เขาจำไม่ได้อีกต่อไปแล้วว่าตัวเองเป็นใคร |
I guess I shouldn't say that work is a waste of time | ฉันคิดว่าฉันไม่ควรกล่าวว่างานนั่นเป็นการสิ้นเปลืองเวลาเปล่า |
I realize now that I have been wrong | ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด |
I knew for a certainty that his real name is Smith | ฉันทราบเป็นที่แน่นอนแล้วว่าชื่อจริงๆ ของเขาคือสมิธ |
I only found out last week that she's getting married | ฉันก็แค่ทราบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเธอกำลังจะแต่งงาน |
Now I know why my cell phone bills are so high | ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมบิลค่าโทรศัพท์ถึงได้แพงมากนัก |
I saw this guy twice today | ฉันเจอผู้ชายคนนี้สองครั้งแล้ววันนี้ |
I feared you would not come | ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มา |
She has invited me to spend the Christmas vacation with her | เธอได้เชิญฉันให้มาเที่ยววันหยุดคริสต์มาสต์ด้วยกัน |
She said he told her straight out that he already had a girlfriend | เธอกล่าวว่าเขาบอกกับเธอตรงๆ ว่าเขามีแฟนแล้ว |
I warned you not to risk your life for something trivial like this | ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ |
ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles | |
---|---|
Wow, your hair! | ว๊าว วว ทรงผมนายเท่ชะมัดเลย |
Circuitry specs for a liquid technology. | ววจรต้นแบบใน แบบ เทคโนโลยี ของเหลว |
My, my! Mmm. Say, that's pretty swell. | อืมมม กล่าวว่าเป็นบวมสวย |
Not bad, says I. | ไม่ได้เลวร้ายครั้งที่หนึ่งกล่าวว่า |
But,Jiminy, Lampwick says a guy only lives once. | แต่ จิมืนี, แลมปวิก กล่าวว่าคนที่แต่งตัว ประหลาดอาศัยอยู่เพียงครั้งเดียว |
It's so nice to run into you here, just when I was beginning to despair of finding any old friends here in Monte. | ดีใจจังที่เผอิญมาเจอคุณที่นี่ กำลังบ่นอยู่ชียวว่า ไม่ได้เจอคนรู้จักเลยที่มอนติ คาร์โล |
You will notice, madam, that I've left a blank space for the sauce. | คุณคงเห็นเเล้วว่าฉันเว้นช่องว่างตรงเรื่องซอส |
I don't know. I didn't like to. I was afraid he'd think me a fool. | ไม่รู้สิคะ ฉันกลัวว่าเขาจะมองว่าฉันเป็นคนโง่ |
I hear he went up to London, left his little bride all alone. | ได้ข่าวว่าขึ้นไปที่ลอนดอน ทิ้งเจ้าสาวอยู่ตัวคนเดียว น่าเสียดาย |
I've seen his face, his eyes. They're the same as those first weeks after she died. | ฉันเคยเห็นใบหน้าและแววตาของคุณผู้ชาย มันเป็นเหมือนเมื่อช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังคุณนายเสีย |
No, he hasn't been in the house at all, and I'm afraid something might have happened to him. | - ยังเลยค่ะ ฉันกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา |
I thought that Favell was with her, and I knew then that I couldn't stand this life of filth and deceit any longer. | ผมนึกว่าฟาเวลมากับหล่อนด้วย ผมถึงรู้ตัวว่าผมไม่สามารถใช้ชีวิต ที่มีแต่ความหลอกลวงนี่ได้อีกต่อไปแล้ว |
I told you, you should have had some breakfast. | ผมบอกเเล้วว่าคุณน่าจะทานอาหารเช้ามาบ้าง |
If that stupid coroner hadn't been as much of a snob as you are, he'd have seen that half-wit was hiding something. | ถ้าไม่เพราะความยโสของหมอชันสูตรศพ ก็คงรู้แล้วว่าไอ้คนไม่เต็มบาทนั่นปิดบังอะไรอยู่ |
I knew you were going to bring that up, Colonel. | ผมคิดไว้เเล้วเชียวว่าท่านต้องเอ่ยถึงมันท่านผู้พัน |
But I know now that when she told me about the child, she wanted me to kill her. | เเต่ตอนนี้ฉันรู้เเล้วว่าตอนที่หล่อนบอกว่า กําลังจะมีลูกหล่อนต้องการให้ฉันฆ่าหล่อน |
Say, we'd like to get started. | กล่าวว่าเราต้องการที่จะเริ่มต้น |
They proved it a dozen different ways in court. | พวกเขาพิสูจน์แล้วว่ามันโหลวิธีการที่แตกต่างกันในศาล |
Said it sounded like a fight. | กล่าวว่ามันฟังเหมือนการต่อสู้ |
I don't know. It's all been said. | ผมไม่ทราบว่า ทุกอย่างจะได้รับการกล่าวว่า |
No, he didn't say "slapped". He said "punched". There's a difference. | ไม่มีเขาไม่ได้บอกว่า "ตบ" เขากล่าวว่า "ชก" มีความแตกต่างเป็น |
The storekeeper said it was the only one of its kind he had ever had in stock. | ภัณฑารักษ์กล่าวว่ามันเป็นเพียงคนเดียวของชนิดที่เขาเคยมีในสต็อก |
Like, some account exec will get up and he'll say: | เช่น exec บัญชีบางส่วนจะได้รับการขึ้นและเขาจะกล่าวว่า |
Say the given point is the open window of the room where the killing took place. | กล่าวว่าจุดที่กำหนดเป็นหน้าต่างที่เปิดห้องพักที่การฆ่าที่เกิดขึ้น |
We've proved the old man couldn't have heard the boy say "I'm gonna kill you." | เราได้พิสูจน์แล้วว่าคนเก่าไม่เคยได้ยินเด็กพูดว่า "ฉันจะฆ่าคุณ". |
He said 15. He was positive about it. | เขากล่าวว่า 15 เขาเป็นบวกเกี่ยวกับเรื่องนี้ |
Say, could I see that knife a second, please? | กล่าวว่าฉันจะได้เห็นมีดที่สองได้ไหม |
"Why not?" the old man said. | ทำไมไม่? ชายชรากล่าวว่า ระหว่างชาวประมง |
They say his father was a fisherman. | พวกเขากล่าวว่าพ่อของเขาเป็น ชาวประมง |
The boy was sleepy, and the old man said, "I'm sorry. " | เด็กที่ถูกง่วงนอน และชายชรากล่าวว่า "ฉันขอ โทษ." |
He made a quick drop, slanting down on his backswept wings, and then circled again. | เขาทำลดลงอย่างรวดเร็วเอียงลง บนเขา ปีกกวาดกลับแล้ววงกลมอีก ครั้ง |
But now he said his thoughts aloud many times... ... since there was no one they could annoy. | แต่ตอนนี้เขากล่าวว่าความคิด ของเขาออกมาดัง ๆ หลาย ๆ ครั้งเนื่องจากมี ไม่มีใครที่มันสามารถรบกวน |
The thousand times he had proved it meant nothing. | พันครั้ง เขาได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่มี ความหมายอะไร |
Please consider them said. | โปรดพิจารณามันกล่าวว่า |
"Tiburón, " the waiter said. "A shark. " | ทิบูรอน, บริกรกล่าวว่า ฉลาม. |
"I didn't know sharks had such handsome, beautifully formed tails, " the woman said. | ฉันไม่ทราบว่าปลาฉลามได้เช่น รูปหล่อ รูปแบบที่สวยงามหางผู้หญิงคน นั้นกล่าวว่า |
This note just came. They said it's important. | {\cHFFFFFF}บันทึกนี้เพิ่งมา พวกเขากล่าวว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ |
And when he's found I'd be scared to be put in his shoes! | พอหาไอ้หมอนั่นเจอ ฉันกลัวว่าจะกลายเป็นอย่างเขาน่ะสิ |
I'll keep this. You go. Wallace will let you know. | ฉันจะเก็บไว้เอง ไปได้ แล้ววอลเลซจะติดต่อแก |
Put your drawers on and take your gun off. | ใส่กางเกงซะ แล้ววางปืนลง |
Japanese-Thai: Saikam Dictionary | |
---|---|
人気 | [ひとけ, hitoke] Thai: วี่แววของคน |
輝く | [かがやく, kagayaku] Thai: แวววาว English: to glitter |