English-Thai: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
---|---|
ทับถม | (v.) pile up See also: pile charge upon, heap up, over whelm Syn. พอก, โปะ, ถม, พูน, สุม |
ทับถม | (v.) defame See also: incriminate, criticize, defame, slander Syn. ซ้ำเติม |
English-Thai: HOPE Dictionary | |
---|---|
alluvium | (อะลู' เวียม) n. (pl. -viums, -via) ชั้นของดิน โคลนและอื่น ๆ ที่น้ำพัดพามา, สิ่งต่าง ๆ ที่นอนก้นทับถมอยู่เมื่อไม่นานมา. |
bottomland | n. พื้นดินที่เกิดจากดินทรายที่น้ำพัดมาทับถม |
deposit | (ดิพอส'ซิท) {deposited,depositing,deposits} vt. ทับถม,สะสม,กอง,ฝากไว้,ฝากเงิน,วางไข่ vi. ฝากไว้. n. สิ่งที่ทับถม,การฝาก,ที่เก็บเงินฝาก,เงินมัดจำ |
deposition | (เดพพะซิช'เชิน) n. การปลดออกจากตำแหน่งหรืองาน,การให้ออกจากราชสมบัติ,สิ่งที่ถูกปลด,การให้การเป็นพยาน,หนังสือให้การเป็นพยาน,การทับถม,การสะสม,การนอนก้นของตะกอน,การฝากเงิน |
diluvium | (ดิลู'เวียม) n. ชั้นน้ำท่วมสะสม,น้ำท่วมทับถมกัน, Syn. diluvion -pl. -diluvia,diluviums |
pile | (ไพล) n. กอง,กองไม้,จำนวนมาก,หม้อแบตเตอรี่แห้ง,หม้อไฟฟ้า,ตอม่อสะพาน,เสาเข็ม,เสาปัก,ขน,ขนนิ่ม,ขนสัตว์, (มักใช้ในรูปpiles) โรคริดสีดวงทวาร,หัวริดสีดวง vt. กอง,รวม,ถม,ทับถม,สะสม,เบียด,ทะลัก,ก่ายกอง,ใส่เสาเข็ม,ใส่ตอม่อ |
sedimentation | (เซดดะเมนเท'เชิน) n. การตกตะกอน,การทับถมเป็นตะกอน |
stratification | (สแทรททะฟิเค'เชิน) n. การแบ่งออกเป็นชั้น ๆ ,ลักษณะเป็นชั้น ๆ ,ชนชั้นของสังคม,การเกิดเป็นชั้น ๆ ,การจมทับถมกันเป็นชั้น |
English-Thai: Nontri Dictionary | |
---|---|
deposition | (n) การฝากเงิน,การสะสม,การปลดออกจากตำแหน่ง,การทับถม |
multiply | (vt) คูณ,ทับทวี,ทับถม,เพิ่มจำนวน,ทวีคูณ |
อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน | |
---|---|
aeolian deposit; eolian deposit | สิ่งทับถมลมพา [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
biochemical deposit | สิ่งทับถมชีวเคมี [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช. | |
---|---|
Aeolian Deposit ; Eolian Deposit | สิ่งทับถมลมพา ทรายหรือดินละเอียดที่ลมหอบเอามาทับถม อย่างเช่นเนินทรายที่มักพบอยู่ทั่วไปตามหาดทรายหรือทะเลทราย [สิ่งแวดล้อม] |
Alluvial Complex Soil | ดินตะกอนน้ำพาเชิงซ้อน ดินบริเวณที่ราบน้ำท่วมถึง (flood plain) มีลักษณะสูงๆ ต่ำๆ เนื่องจากการกัดเซาะของน้ำและเกิดจากการทับถม จึงทำให้พบดินตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ปะปนกัน จนไม่สามารถแยกและแสดงไว้บนแผนที่ดินที่มีมาตรส่วนขนาดเล็กได้ จึงรวมไว้ในหน่วยแผนที่เดียวกัน [สิ่งแวดล้อม] |
Bar | สันดอน หมวดทรัพยากรที่ดินและการใช้ที่ดิน หมายถึง เนินที่เกิดจากกระแสน้ำพัดพาตะกอนมาตกจมทับถม จนเกิดเป็นสันหรือพืดสัน ในบริเวณ ลำแม่น้ำ ปากแม่น้ำ หรือนอกจากชายฝั่งทะเล ซึ่งอาจเป็น สิ่งกีดขวางต่อการเดินเรือได้ หมวดทรัพยากรสิ่งมีชีวิตในน้ำ หมายถึง พืดสันทรายหรือตะกอนอื่นๆ ที่กระแสน้ำพัดพามาตกทับถมสะสมไว้มาก จนเกิดเป็นสันหรือพืดยื่นขวางหรือปิดปากน้ำทางเข้าท่าเรือและปากอ่าว ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งกีดขวางต่อการเดินเรือได้ แบ่งออกได้เป็นประเภทต่างๆ คือ สันดอนก้นอ่าว (Bay-Head Bar), สันดอนปากอ่าว (Bay-Mouth Bar), สันดอนจะงอยปากอ่าว (Bay-Mouth Split) และสันดอนเชื่อมเกาะ(Tombolo) [สิ่งแวดล้อม] |
Benthal Demand | อุปสงค์ท้องน้ำ ความต้องการออกซิเจนของน้ำเหนือตะกอนทับถมท้อง น้ำอันเนื่องจาก การแพร่ของการเน่าเปื่อย [สิ่งแวดล้อม] |
Bog | ที่ลุ่มสนุ่น, พรุ บริเวณที่ลุ่มน้ำขังตลอดปีหรือเกือบตลอดปี มีซากพืชที่ตายแล้วผุพังกลายเป็น พีต(peat) ที่เป็นกรดจัด จับตัวกันในลักษณะหลวม ๆ ทับถมกันหนาบางตามสภาพแวดล้อมที่เกิด บางส่วนลอยอยู่บนผิวน้ำ บางส่วนจมใต้ผิวน้ำ เมื่อเหยียบย่ำจะหยุ่นคล้ายฟองน้ำ พืชพรรณที่ขึ้นในพรุมีหลากหลาย ได้แก่ หญ้า กก เฟริ์น ปาล์มหมาก หวาย เตย รวมทั้งไม้ยืนต้นบางชนิด ดิน อินทรีย์ที่พบในพื้นที่นี้มีปฎิกิริยาเป็นกรดจัด [สิ่งแวดล้อม] |
Delta | ดินดอนสามเหลี่ยม ดินดอนบริเวณปากน้ำซึ่งมีรูปร่างคล้ายพัด ด้ามจิ้ว เกิดขึ้นเพราะการที่แม่น้ำและสาขาใหญ่น้อยที่กระจายออก ตรงปากน้ำพาตะกอนมาทับถมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ท้องพื้นน้ำมีระดับสูงขึ้น น้ำก็ยิ่งไหลช้าลง การตกตะกอนก็เพิ่มมากขึ้นจนสูงพ้นระดับน้ำกลายเป็นพื้นแผ่นดินแผ่กระจายออก ตรงปากน้ำ พื้นดินนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป้นบริเวณกว้างต่อเนื่องกลายเป้นดินดอนสามเหลี่ยม ถ้าไม่ลุ่มเกินไปก็ใช้ทำการเพาะปลูกและตั้งบ้านเรือนได้ แต่ก้อาจเกิดน้ำท่วมทันฝั่งเสมอเช่น บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากน้ำใหญ่ๆ อาทิ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำไนล์ แลพแม่น้ำโขง [สิ่งแวดล้อม] |
Deposition | การทับถม [สิ่งแวดล้อม] |
fossil | ซากดึกดำบรรพ์, รูปรอยหรือซากของสิ่งมีชีวิตที่ถูกทับถมมาเป็นเวลาอันยาวนานมักจะพบในหินตะกอน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
humus | ฮิวมัส, ซากพืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพังทับถมกันปะปนอยู่ในดิน ทำให้ดินมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์เหมาะแก่การเพาะปลูก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
limestone | หินปูน, หินตะกอนชนิดหนึ่งเกิดจากการสะสมตัวของโคลน ตะกอนพวกแคลไซต์หรือแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งทับถมกันอยู่เป็นเวลานาน ๆ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Shingle Beach | หาดหิน หรือหาดกรวด เป็นหาดที่ประกอบด้วยหินหรือกรวดขนาดใหญ่ เกิดจากการทับถม ของเศษหินซึ่งถูกคลื่นซัดขัดสีกันและกันจนแบนเรียบและมน เช่น หาดที่เกาะหินงาม อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล [สิ่งแวดล้อม] |
Disconformity | รอยชั้นไม่ต่อเนื่องคงระดับ รอยชั้นไม่ต่อเนื่องที่มีระนาบชั้นหินที่อยู่ เหนือและใต้ รอยต่อมีแนวขนานกัน ซึ่งแสดงถึงการขาดช่วงในลำดับชั้น ของหินชั้น โดยทั่วไปช่วงที่ขาดตอนไปนั้น เกิดเนื่องจากการกร่อน หรือบางครั้งไม่มีการทับถม ปกติจะสังเกตเห็นได้จากรอยขรุขระ ของผิวของการกร่อน ซึ่งมีมากพอที่จะทำให้เห็นเป็นลักษณะสูง ๆ ต่ำ ๆ เช่น รอยชั้นไม่ต่อเนื่องที่หินชุดเก่ายังอยู่ในแนวนอนในช่วงที่มีการกร่อน หรือช่วงที่เปลือกโลกมีการแยกตัวและจมตัวลงโดยไม่เกิดการเอียงเทหรือเลื่อน เหลื่อม [สิ่งแวดล้อม] |
Dune ; Sand Dune | เนินทราย ; สันทราย เนินที่เกิดขึ้นในบริเวณทะเลทราย หรือบริเวณใกล้ฝั่งทะเล เนื่องจากลมได้พัดพาเอาทรายละเอียดมากองทับถมกันไว้ และเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีขนาดโตเป็นเนินทรายหรือ สันทรายเตี้ยๆ และมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีสิ่งกีดขวางทิศทางลม จึงกั้นทรายที่ถูกลมพัดหอบมาเอาไว้ และตกลงมาทับถมกันเป็นกองโตปกคลุมสิ่งกีดขวางนั้นจนมิด ด้านของเนินที่อยู่ทางต้นลมจะมีลักษณะลาด ส่วนด้านที่อยู่ทางปลายลมจะชัน [สิ่งแวดล้อม] |
Levee | คันดิน, ทำนบดิน ทำนบหรือคันดินธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพราะแม่น้ำ ลำธารพาโคลนตมมาทับถมริมฝั่งในระหว่างหน้าน้ำหลาก เมื่อน้ำลด โคลนตมที่ทับถมนั้นก็เป็นคันดินยาวขนานไปตามริมฝั่งน้ำ ในขณะเดียวกันท้องพื้นน้ำก็ตื้นเขินขึ้นเวลาเกิดน้ำท่วมบ่าไหลเชี่ยวกรากจน น้ำทะลุคันดิน ทำให้เกิดไหลท่วมบริเวณหลังคันดินรุนแรง [สิ่งแวดล้อม] |
Meander | ทางน้ำโค้งตวัด ลำน้ำที่โค้งไปโค้งมาแลดูคล้ายเส้นเชือกที่วาง ขดไว้เป็นหยัก ๆ เป็นลักษณะของลำน้ำที่มักพบอยู่ในบริเวณที่ธารน้ำไหลผ่านไปในพื้นที่ค่อน ข้างราบ การกัดเซาะในทางลึกมีน้อยกว่าในทางข้าง กระแสน้ำที่ไหลมาปะทะตลิ่งด้านหนึ่งจะค่อยๆ กัดเซาะตลิ่งด้านนั้นให้พังทลายไปทีละน้อยๆ ในขณะเดียวกันตลิ่งด้านที่อยู่ตรงข้ามจะเกิดการทับถมงอกออกมา นานๆเข้าทางน้ำจึงโค้งมากขึ้น บางครั้งก็โค้งตวัดจนเกือบจะประชิดกัน ซึ่งถ้าหากประชิดกันมาก กระแสน้ำอาจเซาะตรคอคอดให้ขาดเป็นลำน้ำตัดตรงไป ส่วนที่โค้งอ้อมนั้นกลายเป้นบึงโค้งหรือทะเลสาบรูปแอก [สิ่งแวดล้อม] |
Sedimentation | การตกตะกอน หมวดคุณภาพน้ำ หมายถึง กระบวนการตกจมและทับถมของสารแขวนลอยในน้ำ น้ำเสียหรือของเหลวอื่นๆ เนื่องจากแรงโน้มถ่วง วิธีการทำให้สารตกตะกอน มักทำโดยการลดความเร็ว การไหลให้ต่ำลงจนถึงจุดที่สารแขวนลอยนั้นจะจมลง หมวดสารพิษและกากของเสีย หมายถึง การตกตะกอนของสารแขวนลอย อาจเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก หรือจากการเหวี่ยง ความเร็วในการตกตะกอนใช้บอกขนาดโดยเฉลี่ยของอนุภาคได้ การตกตะกอนยังเป็นขบวนการสำคัญในการบำบัดน้ำเสีย และการทำน้ำประปา [สิ่งแวดล้อม] |
Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
---|---|
deposit | (vt.) ทับถม See also: สะสม Syn. leave, lay down |
pile up | (vi.) ทับถม See also: ทับถม, พอก, โปะ, ถม, พูน Syn. heap up, stack up |
alluvion | (n.) ผืนดินที่เกิดจากสิ่งที่น้ำพัดพามาทับถม |
deposition | (n.) การทับถมกันของสสาร |
logjam | (n.) การที่ท่อนซุงในแม้น้ำทับถมกันจนเคลื่อนที่ไม่ได้ |
peat | (n.) ถ่านหินเลน (เกิดจากต้นไม้ในหนองที่ทับถมกัน) Syn. gas, oil, kerosine |
sedimentation | (n.) การทับถมของตะกอนเป็นชั้นหิน See also: การตกตะกอน Syn. deposit |
ventifact | (n.) หินที่เกิดจากการทับถมของทรายที่พัดมากับลม See also: แร่หิน |
ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles | |
---|---|
Every block of my granite is cemented by the blood of many men. | ทุกๆอณูของพิ้นแกรนิต ถูกทับถมโดย เลือดคนหลายคน |
And do you think your pathetic wall will do anything except fall like a heap of dry leaves in the face of...? | เยี่ยงกองใบไม้แห้ง ทับถมใบหน้า... โคตรเหง้าพวกข้าสร้างกำแพงนี้ ใช้หินโบราณ จากห้วงบาดาลกรีซ |
And one of the factors that has been compounding them is the lack of rainfall and the increasing drought. | หนึ่งในหลายปัจจัยที่กำลังทับถมพวกเขา คือการขาดฝนและความแห้งแล้งเพิ่มมากขึ้น |
The painful burden that has weighted me down | ปัญหาอันหนักอึ้งที่ทับถมฉันอยู่ |
That's an example of magnification. | นั่นเป็นตัวอย่างของการพูดทับถมตัวเอง |
These strata are the accumulated shells of those billions and billions of micro-organisms. | ชั้นหินเหล่านี้คือเปลือกที่ทับถมกัน ของสิ่งมีชีวิตนับพันล้านของพันล้านตัว |
Told you not to answer it. - i'll deal with it later. - the messes are piling up. | เรื่องยุ่งๆ ทับถมกันเต็มไปหมด โดดเดี่ยว ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย สมบูรณ์แบบ |
The accumulated filth of all their sex and murder will foam up around their waists and all the whores and politicians will look up and shout, "Save us." | ความโสโครกที่ทับถม ของเซ็กส์และฆาตกรรม จะเป็นฟองผุดรอบตัวพวกมัน บรรดาอีตัวและนักการเมือง จะแหงนหน้าและร้องตะโกนว่า "ช่วยด้วย" |
The planet's laced with naquadria deposits. | ดวงดาวที่มีแต่แร่นาควาดาห์ทับถมกัน |
I'm doing some actual good out here, and all I get are these bullshit accusations! | ผมทำเรื่องบางอย่างที่นี่ อยู่ในเวลานี้ให้ดี และทั้งหมดที่ผมได้รับ คือข้อทับถมกล่าวหาตอแหลนี่ |
Trash men-- they come every other day, and then it's off to the landfill, body never to be seen. | รถขนขยะ- - พวกเขามา ตามตารางกำหนด แล้วนำขยะไปทับถม ในหลุมขยะต่อไป |
Now, the process is called vacuum metal deposition. | เอาล่ะ กระบวนการนี้เรียกว่า การดูดสสารที่ทับถมกัน ในรูปของโลหะ |
Don't think it was a landslide, if it makes you feel better. | อย่าคิดว่าเป็นการทับถมกันเลยนะ ถ้ามันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น |
Look, I gave him the cologne like you told me to... and I don't think we should really just dance on his grave. | ผมให้โคโลญเขาอย่างที่คุณบอกแล้ว ผมว่าเราไม่ควรไปทับถมเขาอีก |
Each year, sand and sediment cover up the remains, creating layers on the ocean floor. | ในแต่ละปี ทรายและตะกอน จะทับถมพวกซากต่างๆ ทำให้เกิดชั้นต่างๆของพื้นมหาสมุทร |
Is it too soon to say "I told you so"? | เร้วไปไหมถ้าจะทับถมว่า "ผมบอกคุณแล้ว" |
You're here because for once, you're the one in the happy relationship, and you just couldn't wait to rub my face in it. | เธอเป็นคนที่มีความสุขในสัมพันธภาพ และเธอสามารถที่จะ รอเพื่อที่จะทับทับถมฉันไง |
By the way, not that it's a competition, but I have two lanyards on my keychain. | ยังไงก็ตาม ไม่ได้ทับถมนะ ผมมีพวงพวงกุญแจสองอัน |
If embarrassment were bountiful zinc deposits, | ถ้าความอับอายคือสังกะสีมากมายที่ทับถมกัน |
That's why we've had these problems all these years. | ทำให้เรามัปัญหาทับถมจน เหมือนทุกวันนี้ยังไงล่ะ |
It felt like my world imploded and came raining down on me, and... | มันรู้สึกเหมือนโลกมันจะแตก และทุกสิ่งทุกอย่างทับถมลงมา |
Schedule the deposition next week. | กำหนดการทับถมของสัปดาห์ต่อไป |
I've seen the bodies piled on the battlefields. | ข้าเห็นร่างไร้ลมหายใจที่กองทับถมกันในสมรภูมิ |