ยกน ในภาษาอังกฤษ| English-Thai: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
|---|---|
| ยกน้ำหนัก | (n.) weight lifting Syn. กีฬายกน้ำหนัก |
| ยกนิ้ว | (v.) accept the other´s superiority See also: acknowledge, grant, concede, assent, consent Syn. ยกนิ้วให้, ยอมรับ, นับถือ |
| ยกนิ้วให้ | (v.) accept the other´s superiority See also: acknowledge, grant, concede, assent, consent Syn. ยอมรับ, นับถือ |
| English-Thai: HOPE Dictionary | |
|---|---|
| awash | (อะวอช') adj.,adv. ถูกคลื่นกระทบ,จุ่มอยู่ใต้น้ำ,เสมอกับระดับน้ำ,น้ำซัดถึง,เปียกน้ำ,ท่วมน้ำ, Syn. washing about) |
| barbell | (บาร์'เบล) n. เครื่องยกน้ำหนักที่มีจานน้ำหนักทั้งสองข้างคานเหล็ก |
| data base | ฐานข้อมูลหมายถึง การจัดรวบรวมข้อนิเทศ หรือข้อมูลของเรื่องต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบที่จะ เรียกมาใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการ ในการเรียกนั้น อาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งเป็นคราวก็ได้ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะได้รับการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ บางทีเขียนเป็นคำเดียวกันว่า database |
| database | หมายถึง การจัดรวบรวมข้อนิเทศ หรือข้อมูลของเรื่องต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบที่จะ เรียกมาใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการ ในการเรียกนั้น อาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งเป็นคราวก็ได้ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะได้รับการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ บางทีเขียนแยกกัน เป็น data base ก็มี |
| doc | (ดอค) n. ดูdoctor,คำสั้น ๆ ที่ใช้เรียกนายแพทย์ ทันตแพทย์ หรือสัตวแพทย์ abbr. II-deoxycorticosterone ด็อก ย่อมาจากคำว่า document มักใช้เป็นนามสกุล (file type) ของแฟ้มข้อมูลหรือ แฟ้มเอกสาร (.doc) ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้โปรแกรม Microsoft Word ซึ่งเป็นโปรแกรมประมวลผลคำ (word processing) แฟ้มเอกสารประเภทนี้จะประกอบด้วยข้อความที่เป็นตัวหนังสือ อาจมีภาพด้วยหรือไม่ก็ได้ |
| drag and drop | ลากแล้วปล่อยลากไปวางหมายถึง การใช้เมาส์ลากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ภาพหรือข้อความทั้งบล็อก) บนจอภาพ ไปวางไว้ยังตำแหน่งใหม่ โดยต้องกำหนด (select) ให้คอมพิวเตอร์รู้ก่อน แล้วจึงใช้เมาส์ลากไป การลากด้วยเมาส์นั้น จะต้องกดนิ้วชี้บนปุ่มซ้ายของเมาส์แช่ไว้ ในขณะที่ลากเมาส์เพื่อนำไปวางในที่ ๆ ต้องการ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะยกนิ้วออกจากเมาส์ได้ ในโปรแกรมตารางจัดการ (spreadsheet) อาจลากไปได้ทั้งแถวหรือทั้งคอลัมน์ |
| dumbbell | (ดัม'เบล) n. ดัมเบลล์สำหรับยกน้ำหนัก,คนโง่เง่า, Syn. fool |
| hard space | (ฮาร์ดสเปซ) หมายถึงที่ว่างที่ถือเสมือนไม่ใช่ที่ว่าง ใช้เฉพาะในโปรแกรมประมวลผลคำ ในกรณีที่พิมพ์คำบางคำที่มีที่ว่างระหว่างคำ เช่น World War II หรือ พิมพ์วันที่ เช่น May 7 เช่นนี้ ถ้าบังเอิญพิมพ์คำนี้มาถึงปลายบรรทัด แต่ไม่มีที่ว่างพอจะพิมพ์ทั้งคำ คอมพิวเตอร์จะแยกนำคำหลังช่องว่างมาขึ้นบรรทัดใหม่ ซึ่งจะเป็นการไม่ถูกต้อง เราจึงต้องกำหนดให้ที่ว่างที่เห็นนั้นเป็นฮาร์ดสเปซ เพื่อให้โปรแกรมไม่แยกเป็นคนละบรรทัด ถ้าที่ไม่พอในบรรทัดบน ก็จะนำลงมาบรรทัดใหม่ทั้งคำ |
| jerk | (เจิร์ด) {jerked,jerking,jerks} n. การกระตุก,การเกร็งกระตุก,การสะบัด,การกระซาก,การฉุด,การเหวี่ยง,การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและกระทันหัน,คนเซ่อ,คนโง่,การยกน้ำหนักจากไหล่ขึ้นตรงเหนือศีรษะ,การพูดอย่างกระหืดกระหอบ. v. กระตุก,เกร็งกระตุก,สะบัด,กระชาก,ฉุด,เหวี่ย |
| mitten | (มิท'เทิน) n. ถุงมือที่คลุมสี่นิ้วรวมกันและแยกนิ้วแม่มือออกต่างหาก,ถุงมือผู้หญิงชนิดปล่อยนิ้วให้โผล่ออก |
| wetblanket | (เวท'แบลง'คิท) vt. ใช้พรมเปียกน้ำ,ทำให้หมดสนุกหรือหมดความกระตือรือร้น หรือหมดกำลังใจ |
| English-Thai: Nontri Dictionary | |
|---|---|
| awash | (adj) จมอยู่ใต้น้ำ,เปียกน้ำ |
| dewy | (adj) เปียกน้ำค้าง,คล้ายน้ำค้าง,สดชื่น |
| อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช. | |
|---|---|
| Atomic bomb | ลูกระเบิดอะตอม, ลูกระเบิดที่แรงระเบิดเกิดจากปฏิกิริยาการแบ่งแยกนิวเคลียสของธาตุหนัก เช่น ยูเรเนียม-235 หรือ พลูโทเนียม-239 ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว (ดู Fission ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
| Atomic energy | พลังงานอะตอม, พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อมีการแบ่งแยกนิวเคลียสหรือการหลอมนิวเคลียสของอะตอม หรือจากการสลายของสารกัมมันตรังสี ปัจจุบันนิยมใช้ “พลังงานนิวเคลียร์" [นิวเคลียร์] |
| Cladding | เปลือกหุ้มเชื้อเพลิง, โลหะที่ใช้ห่อหุ้มแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนเนื้อเชื้อเพลิงจากตัวทำให้เย็น และป้องกันผลผลิตการแบ่งแยกนิวเคลียสไม่ให้ออกมาปนในตัวทำให้เย็น วัสดุที่ใช้ เช่น อะลูมิเนียม โลหะผสมของอะลูมิเนียม เหล็กกล้าไร้สนิม และโลหะผสมของเซอร์โคเนียม |
| Degassing Tank | ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราว, ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราวเพื่อแยกน้ำออกจากน้ำมันโดยการเติมสารเคมี (Demulsifier) ลงไป สารเคมีจะช่วยให้น้ำแยกออกจากน้ำมันและจมลงสู่ก้นถัง และถูกถ่ายเทไปยังถังเก็บน้ำโดยเฉพาะ ส่วนน้ำมันที่ลอยอยู่ส่วนบนจะไหลไปยังถังเก็บน้ำมัน (storage tank) สำหรับก๊าซที่ปนขึ้นมากับน้ำมันด้วยในตอนแรกจะถูกปล่อยสู่บรรยากาศทางท่อเล็กๆ ด้านบนของ tank [ปิโตรเลี่ยม] |
| Dehydration | ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราว, ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราวเพื่อแยกน้ำออกจากน้ำมันโดยการเติมสารเคมี (Demulsifier) ลงไป สารเคมีจะช่วยให้น้ำแยกออกจากน้ำมันและจมลงสู่ก้นถัง และถูกถ่ายเทไปยังถังเก็บน้ำโดยเฉพาะ ส่วนน้ำมันที่ลอยอยู่ส่วนบนจะไหลไปยังถังเก็บน้ำมัน (storage tank) สำหรับก๊าซที่ปนขึ้นมากับน้ำมันด้วยในตอนแรกจะถูกปล่อยสู่บรรยากาศทางท่อเล็กๆ ด้านบนของ tank [ปิโตรเลี่ยม] |
| Dumb Bell | ตุ้มยกน้ำหนัก [การแพทย์] |
| Fission | ฟิชชัน, การแบ่งแยกนิวเคลียส, การที่นิวเคลียสของธาตุหนักบางชนิดแยกออกเป็นนิวเคลียสของธาตุที่เบากว่าอย่างน้อยสองชนิดที่มีขนาดใกล้เคียงกัน พร้อมกับปลดปล่อยนิวตรอน 1 ถึง 3 อนุภาค รังสีแกมมา และพลังงานออกมา [นิวเคลียร์] |
| Hydrogen bomb | ลูกระเบิดไฮโดรเจน, ลูกระเบิดที่แรงระเบิดเกิดจากปฏิกิริยาการหลอมนิวเคลียสของไอโซโทปของไฮโดรเจนภายใต้อุณหภูมิสูงมากจากการจุดระเบิดด้วยปฏิกิริยาการแบ่งแยกนิวเคลียส |
| Moderator | ตัวหน่วงความเร็ว(นิวตรอน), วัสดุที่ใช้ลดความเร็วของนิวตรอนในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำให้โอกาสของการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียสเพิ่มขึ้น เช่น น้ำ น้ำมวลหนัก และแกรไฟต์ |
| Nuclear bomb | ลูกระเบิดนิวเคลียร์, ลูกระเบิดที่แรงระเบิดเกิดจากปฏิกิริยาการหลอมนิวเคลียสของธาตุเบา เช่น ลูกระเบิดไฮโดรเจน หรือจากการแบ่งแยกนิวเคลียสของธาตุหนัก เช่น ลูกระเบิดอะตอม |
| Nuclear fission | การแบ่งแยกนิวเคลียส, การที่นิวเคลียสของธาตุหนักบางชนิดแยกออกเป็นนิวเคลียสของธาตุที่เบากว่าอย่างน้อยสองชนิดที่มีขนาดใกล้เคียงกัน พร้อมกับปลดปล่อยนิวตรอน 1 ถึง 3 อนุภาค รังสีแกมมา และพลังงานออกมา [นิวเคลียร์] |
| Plutonium | พลูโทเนียม, ธาตุหนักที่เป็นโลหะและเป็นธาตุกัมมันตรังสี มีเลขเชิงอะตอมเท่ากับ 94 ซึ่งมนุษย์ผลิตขึ้นจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ ไอโซโทปสำคัญ คือ พลูโทเนียม-239 มีครึ่งชีวิต 24,000 ปีสามารถแบ่งแยกนิวเคลียสได้ จึงใช้เป็นเชื้อเพลิงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หรือทำอาวุธนิวเคลียร์ [นิวเคลียร์] |
| Joint | รอยแยก รอยแยกของเนื้อหินเปลือกโลกที่เกิดจาก ความเค้นและความเครียด จึงทำให้เปลือกโลกพยายามแยกตัวออก เพื่อให้หมดภาวะความกดดัน ดังนั้น จึงพบเห็นเสมอว่าหินเกือบทุกแห่ง มีรอยแยก รอยร้าวอยู่ ถ้าหินสองฟากรอยแตกไม่เหลื่อมตัวกัน เรียกรอยแตกนั้นว่า รอยแยก ถ้าเหลื่อมตัวกันไป ก็เรียกว่า รอยเลื่อน (fault) โดยที่รอยแยกนั้นเกิดจากความกดดันดังกล่าวแล้ว แนวและความเอียงเทของรอยแยกจึงมักสม่ำเสมอทั่วผืนหินแถบนั้น และแสดงทิศทางการกระทำจากแรงเค้นด้วย แนวรอยแยกในผืนหินแถบหนึ่ง ๆ อาจมีมากกว่าทิศทางเดียวก็ได้ เพราะเกิดต่างกรรมต่างวาระกัน [สิ่งแวดล้อม] |
| Novel | นวนิยายนวนิยาย มาจากภาษาอังกฤษว่า Novel และ Novella ในภาษาอิตาเลียน คำนี้ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเรียกนวนิยายอย่างใหม่ของบอกาจิโอ (Boccaio) ที่แต่งเรื่อง เดคาเมรอน (Decameroa) ซึ่งแต่งขึ้นราว ค.ศ. 1338-1340 การที่เรื่องเดคาเมรอน ได้รับการกล่าวขวัญจากคนสมัยนั้นว่าเป็นนิยายแบบใหม่หรือนวนิยายนั้น เป็นเพราะบอกาจิโอ เริ่มใช้กลวิธีการเขียนตามแบบ นวนิยายในสมัยปัจจุบันกล่าวคือ เขียนเล่าเป็นเรื่องสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ในแง่มุมต่างๆ อย่างสมจริง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้อ่านเห็นว่าเรื่องราวดังกล่าวในวรรณกรรมนั้นเป็น เรื่องสมมุติไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ก็มีวิธีการเสนอเรื่องให้ยอกย้อนชวนติดตาม และมีแนวคิดกว้างขวาง มีลักษณะต่างไปจากการเขียนนิทานนิยายแต่เดิมที่มักสร้างเรื่องจากจินตนาการ และอุดมคติของผู้เขียน แต่ผู้เขียนกลับทำให้เรื่องที่อ่านนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องจริง โดยอาศัยการเล่าเรื่องให้เป็นไปตามลำดับเหตุการณ์แล้วสะท้อนแนวคิดสำคัญของ เรื่องให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาของศาสนาเป็นต้น อย่างไรก็ตามเรื่องเดคาเมรอน ก็เป็นเรื่องต้นเค้าของการเขียนนวนิยายตะวันตกเท่านั้น ยังไม่ได้มีลักษณะเป็นนวนิยายอย่างในปัจจุบันอย่างแท้จริงนัก แต่ก็มีอิทธิพลต่อนักเขียนในยุคนั้นและยุคต่อมาด้วย เพราะหลังจากนี้เป็นต้นมา ก็มีการเขียนนวนิยายหรือเรื่องเล่าแบบใหม่ก็กลายเป็นรูปแบบวรรณกรรมอย่าง ใหม่ที่แพร่หลายไปทั่วยุโรป(สายทิพย์ นุกูลกิจ. 2537 : 171-172) นวนิยายตามแบบแผนเช่นปัจจุบันนี้เริ่มมีขึ้นเมื่อตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักประพันธ์นวนิยายที่แท้จริงคนแรกของอังกฤษ คือ แดเนียล เดอโฟ (Daniel Defoe) ซึ่งแต่งเรื่อง โรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe) เมื่อ ค.ศ. 1719 |
| Poison | สารพอยซัน(ต่อปฏิกิริยานิวเคลียร์), วัสดุใดๆ ที่มีภาคตัดขวางการดูดกลืนนิวตรอนสูง ซึ่งจะดูดกลืนนิวตรอนบางส่วนจากปฏิกิริยาลูกโซ่การแบ่งแยกนิวเคลียสในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เป็นผลให้การเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ลดลง |
| Reflector | ตัวสะท้อน(นิวตรอน), ชั้นวัสดุที่ล้อมรอบแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำหน้าที่สะท้อนนิวตรอนกลับเข้าไปในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำให้เกิดการแบ่งแยกนิวเคลียสมากขึ้นและใช้นิวตรอนอย่างคุ้มค่า วัสดุที่ใช้เป็นตัวสะท้อนนิวตรอน เช่น แกรไฟต์ เบริลเลียม และยูเรเนียมธรรมชาติ |
| Spinel | สปิเนล แหล่ง - ในประเทศไทย ชนิดสีดำที่เรียกนิลตะโก พบที่จังหวัดกาญจนบุรี จันทบุรี และตราด สีแดงที่เป็นทับทิมสปิเนลได้พบที่เชียงราย ประโยชน์ - ชนิดที่มีเนื้อใสสะอาดและสีจัดสม่ำเสมอ จัดเป็นรัตนชาติโดยเฉพาะสีแดงคล้ายทับทิมมากจนเรียกทับทิมสปิเนล [สิ่งแวดล้อม] |
| Nuclear reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อุปกรณ์สำหรับให้ปฏิกิริยาลูกโซ่การแบ่งแยกนิวเคลียสเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถควบคุมได้ ใช้สำหรับผลิตนิวตรอน หรือพลังงานความร้อน มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ แกนปฏิกรณ์ ซึ่งบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ สารหน่วงความเร็วนิวตรอน สารสะท้อนนิวตรอน สารหล่อเย็น วัสดุกำบังรังสี และระบบควบคุม |
| Spontaneous fission | ฟิชชันเกิดเอง, การแบ่งแยกนิวเคลียสที่เกิดขึ้นโดยไม่มีตัวกระตุ้นจากภายนอก ไอโซโทปของธาตุหนักหลายชนิดสลายตัวในลักษณะนี้เป็นส่วนใหญ่ เช่น แคลิฟอร์เนียม-252 เฟอร์เมียม-257 และ ไอน์สไตน์เนียม-255 วัสดุเกิดฟิชชันได้ทุกชนิดสามารถเกิดกระบวนการนี้ได้เช่นกันเป็นบางครั้ง |
| Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary | |
|---|---|
| hitch a lift | (idm.) ยกนิ้วโป้งให้สัญญาณกับรถที่ผ่านมาเพื่อขอโดยสารรถไปด้วย |
| thumb a lift | (idm.) ยกนิ้วโป้งให้สัญญาณกับรถที่ผ่านมาเพื่อขอโดยสารรถไปด้วย |
| appetiser | (n.) อาหารเรียกน้ำย่อย Syn. appetizer |
| appetizer | (n.) อาหารเรียกน้ำย่อย |
| callboy | (n.) ผู้ที่ทำหน้าที่เรียกนักแสดงขึ้นเวที |
| cocktail | (n.) อาหารเรียกน้ำย่อย Syn. appetiser, appetizer |
| duffer | (n.) ที่ยกน้ำหนัก See also: ดัมเบล, ท่อนเหล็กยกน้ำหนัก Syn. thickhead |
| dumbbell | (n.) ที่ยกน้ำหนัก See also: ดัมเบล, ท่อนเหล็กยกน้ำหนัก Syn. duffer, thickhead |
| Miss | (n.) คำเรียกนำหน้านางงามในการประกวดความงาม |
| press | (n.) การยกน้ำหนักในท่าเหนือศีรษะ |
| Sir | (n.) คำเรียกนำหน้าชื่ออัศวินหรือขุนนางของอังกฤษ See also: เซอร์ Syn. lord, knight, baron, master |
| snook | (n.) การแสดงท่าเหยียดหยามโดยยกนิ้วโป้งแตะจมูกและกางนิ้วอื่นออก |
| strainer | (n.) ที่กรองแยกน้ำ |
| Venerable | (n.) คำเรียกนำหน้าชื่อบุคคลที่น่านับถือ |
| weightlifting | (n.) กีฬายกน้ำหนัก |
| ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles | |
|---|---|
| Raise a little hell, raise a little hell Raise a little hell | ยกนรกน้อยยก นรกน้อยยกนรกน้อย |
| Tie her up. When the moon rises, we'll feast on a princess. | ยกนางขึ้นไป ยามเมื่อพระจันทร์ขึ้น พวกเราจะกินเจ้าหญิง |
| Giving you up is the only way to draw him out. | ยกนายให้เขา เป็นทางเดียวที่จะล่อเขาออกมาได้ |
| At my age, you know my idea of lifting weights, is standing up! | ยกน้ำหนักกำลังมาเลยนะ! |
| What do you bench, about 350? | ยกน้ำหนักด้วยใช่ไหม 350 ปอนด์ |
| Thumbs up, that helps. | ยกนิ้วให้ คงช่วยได้หรอก |
| I gotta give it to you, Batman. That was awesome. | ยกนิ้วให้คุณเลยแบทแมน สุดยอดเลย |
| Score one for the hill people of Thailand. | ยกนิ้วให้ชาวเขาของประเทศไทยเลย |
| Would you please call Mrs. MacWhite? | คุณจะกรุณา เรียกนาง MacWhite? |
| Like you I bet they don't call you Angel Eyes. | เหมือนนาย พนันว่าพวกนั้นไม่เรียกนาย ว่าแองเจิลอายส์ |
| Hey, I wonder what would happen if I pulled this lever. | เฮ้ ฉันสงสัยว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น ถ้าฉันดึงคันโยกนี้ คุณต้องไม่ทำอย่างนั้น |
| Got to bring back the tourists that'll put all your businesses on a paying basis. | ต้องเรียกนักท่องเที่ยวกลับมา ให้ร้านรวงมีรายได้อยางที่ควรจะเป็น |
| You didn't even bat an eye. You didn't lift a finger. | ไม่ได้ใช้คาถา ไม่ได้ยกนิ้วด้วยซ้ำ |
| Got to hand it to you, treasure! The last of the V8 Interceptors! | ต้องยกนิ้วให้นายเลยว่ะ V8 อินเตอร์เซปเตอร์คันสุดท้าย |
| Tetsuo, why does everyone call you "Akira" ? | เท็ตสึโอะ ทำไมทุกคนถึง เรียกนายว่า "อากิระ" ? |
| If somebody comes, we'll try to remember to call you. | ถ้ามีใครมาจริง ฉันจะพยายามไม่ลืมเรียกนาย |
| I had some beautiful cutlets... that were cut just right... that I was going to fry up as an appetizer. | ที่แล่เป็นแผ่นบางๆ และไปทอดสำหรับเรียกน้ำย่อย |
| Ring the bell for tea, Kitty. | สั่นกระดิ่งเรียกน้ำชาหน่อยคิตตี้ |
| No kiddin'? That's what I'm gonna call you, then. | ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ถ้างั้นฉันเรียกนายอย่างนั้นแล้วกัน |
| I've been listening to the distress signal. | ตอนที่ฟังสัญญาณเรียกนั้น |
| Some guard you are. You don't lift a finger around here. | ยามบางคนที่คุณอยู่ คุณ don เว็บไซต์นั้นมีเสื้อยกนิ้วรอบที่นี่ |
| Nobody ever called the recovery of the artifacts from King Tut's tomb... | แต่ไม่เคยมีใครเรียกนักค้นพบที่... |
| I gotta hand it to you, Magnus. | ต้องยกนิ้วให้นายนะ แม็กนัส |
| Where did the story start about the woman with torn lips? | แล้วเรื่องนั่นเริ่มมาจากที่ไหน เรื่องผู้หญิงที่ปากแยกน่ะ ? |
| Calling the students "buddy" and all | เรียกนักเรียนทั้งหมดว่า"เพื่อน" |
| I shall call you "Eduardo. " | ฉันจะเรียกนายว่า "Eduardo" |
| This is when a man needs pals in the mermaids' union. | ต้องเป่าปี่เรียกนางเงือกมาช่วยซะแล้ว |
| Call if you need us | เรียกนะ ถ้าต้องการคนช่วย |
| I'm not aweightlifter, I skate. | ชั้นไม่ใช่นักยกน้ำหนัก / ชั้นเด็กบอร์ด |
| From now on, I'm gonna call you Diego. | ฉันจะเรียกนายว่า ดิอาโก้. |
| Yeah, and maybe he'll growfur and a long skinny neck and call you Mama. | ใช่, และบางที่พอเขาโตขึ้นและคอยาวขึ้น เขาอาจจะเรียกนายว่าแม่. |
| I hope y'aII brought your appetites. | หวังว่าคงเรียกน้ำย่อยกันได้แล้ว |
| You know, erm... being Prime Minister, I could just have him murdered. | คุณรู้ไหม คือ... ผมเป็นนายกนะ ผมสั่งคนไปฆ่าเขาได้ |
| Oh, that's a good thing. Somebody naming you Elmer, it's just mean. What's your first name, then? | แปลกดีนะที่จะต้องมีชื่อเรียกนำหน้าชื่อเราอีกที ถ้างั้นนายชื่อจริงว่าอะไรล่ะ |
| What would you call clean water fresh air a safe environment? | คุณจะเรียกน้ำสะอาด อากาศสดชื่น สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยว่าอะไร? |
| Please, oh ple-, uh, watch, the roof is leaking, don't make it wet. | ได้โปรด โอ้ ได้โปรดเถอะ เพดานมันรั่วนี่ อย่าให้ฉันเปียกนะ |
| Get me the Prime Minister and the Minister of Defence. | เรียกนายกฯกับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมาพบฉันที |
| Come on, we need equipment up here! | เร็วเข้า เราต้องใช้เครื่องมือยกนี่ออกไป |
| It's called a Submariner. I dive with it. | ที่เรียกนาฬิกานักดำน้ำ. |
| We welcome you all | - โปรดนั่งรถผมเถิดครับ - แกเรียกนี่ว่ารถได้ยังไง เรายินดีต้อนรับทุกๆคน |