branch | (เบรานชฺ) {branched,branching,branches} n. กิ่งก้าน,กิ่ง,สาขา,แขนง,วิชาย่อย,ทางแยก,สายย่อย,แคว vt. แตกกิ่งก้านสาขา,, Syn. bough แยกแตกกิ่ง1. หมายถึง การแยกตัวออกไปจากโปรแกรมที่ทำอยู่ ไปทำโปรแกรมอีกอันหนึ่ง เช่น แยกออกจากโปรแกรมหลัก (main program) ไปทำงานที่โปรแกรมย่อย (subprogram) ตามคำสั่ง Go to2. ความหมายที่ใช้กับ "ต้นไม้" (tree) มีความหมายถึงการแตกกิ่งก้านสาขา เช่นในการแสดงแฟ้มข้อมูลในโปรแกรม Windows Explorer ของ Windows 95 |
branch instruction | คำสั่งแยก (ทาง) หมายถึง การสั่งให้แยกไปทำงาน ณ จุดใดจุดหนึ่งตามคำสั่งในโปรแกรมหรือ ชุดคำสั่ง เช่น คำสั่ง GOTO หรือคำสั่งให้ CALL โปรแกรมย่อย (subroutine) |
call | (คอล) {called,calling,calls} vt.,vi.,n. (การ) เรียก,ร้องเรียก,ร้องขอ,เรียกให้ตื่น,อ่านออกเสียง,เข้าใจว่า,ถือว่า,ให้ชื่อ,มีชื่อ,มีนามว่า,เรียกไพ่,โทรศัพท์,สั่ง,ออกคำสั่ง,ไปเยี่ยม,แวะรับ,ตำหนิ,เลียนแบบ, Syn. exclaim เรียกเป็นคำสั่งที่ใช้ในโปรแกรม หมายถึง การสั่งให้โอนย้ายการทำงานชั่วคราวจากโปรแกรมหลัก (main program) ที่ทำอยู่ ไปทำงานที่โปรแกรมย่อย (subprogram) เป็นการชั่วคราว เมื่อทำงาน ในโปรแกรมย่อยเสร็จแล้ว ก็จะส่งผลที่ได้กลับไปทำในโปรแกรมหลักต่อ โดยจะกลับไปเริ่มที่คำสั่งถัดจากคำสั่ง "call" นั้น |
data transfer | การถ่ายโอนข้อมูลหมายถึง การเคลื่อนย้ายข้อมูลจากที่เก็บในตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง หรืออาจหมายถึงการย้ายที่เก็บจากสื่อเก็บหนึ่งไปอีกสื่อหนึ่งก็ได้ หรือบางทีอาจหมายถึง การย้ายข้อมูลจากโปรแกรมหลัก (master program) ไปทำงานยังโปรแกรมย่อย (subprogram) |
dll | (ดีแอลแอล) ย่อมาจากคำว่า dynamic link library มักใช้เป็นนามสกุล (file type) ของโปรแกรมย่อยในระบบวินโดว์ และโอเอส/ทู โดยเฉพาะโปรแกรมเฉพาะงาน (routine) ที่มีโปรแกรมตั้งแต่สองโปรแกรมขึ้นไปแบ่งกันใช้หรือใช้ร่วมกันได้ เช่น Icon.dll, shell32.dll |
local variable | ตัวแปรเฉพาะที่เป็นคำที่นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใช้อธิบายถึงข้อมูลที่แยกออกไปอยู่ในบางส่วนบางตอนของโปรแกรม เช่น อาจเป็นตัวแปลที่อยู่เฉพาะในโปรแกรมย่อยเท่านั้น |
main program | โปรแกรมหลักในการเขียนโปรแกรม หากมีบางส่วนของโปรแกรมที่มักจะต้องเขียนซ้ำกันบ่อย ๆ อาจจะใช้วิธีเขียนส่วนที่ซ้ำนี้แยกออกเป็นอีกโปรแกรมหนึ่งต่างหาก เรียกว่าโปรแกรมย่อย (subprogram) ส่วนโปรแกรมเดิมเรียกว่าเป็นโปรแกรมหลัก ในโปรแกรมหลักนี้ จะมีคำสั่งเรียกโปรแกรมย่อยมาใช้เมื่อใดก็ได้ บ่อยเท่าใดก็ได้ เป็นการช่วยประหยัดเวลาในการเขียนซ้ำ |
structured programming | หมายถึง วิธีการเขียนโปรแกรมวิธีหนึ่ง ซึ่งใช้วิธีการแบ่งเป็นโปรแกรมย่อย (subprogram) หรือ โมดุล (module) หลาย ๆ อัน ทำให้เข้าใจได้ง่าย หลักการเขียนก็คือ แต่ละส่วนจะประกอบด้วยข้อคำสั่ง 3 ประเภท คือ กำหนดคำสั่งให้เรียงไปตามลำดับการทำงาน ที่เรียกว่า sequential มีคำสั่งให้เลือกทิศทางที่เรียกว่า conditional คือ มี IF-THEN-ELSE และมีการวนไปทำคำสั่งเดิมที่เรียกว่า loop คือมีคำสั่ง DO WHLE อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่คิดจะเป็นนักเขียนโปรแกรม ก็อาจจะไม่รู้จักคำสั่งประเภทนี้ และก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักโปรแกรมโครงสร้างด้วย |